สวัสดีครับ เพื่อนๆผู้สนใจ harmonica ทุกท่าน
หน้านี้ขอตั้งเอาไว้ให้เพื่อนๆตั้งคำถามที่อยากทราบเกี่ยวกับ harmonica (ฮาร์โมนิก้า), mouth organ (เม้าท์ออร์แกน) หรือ หีบเพลงปากนั่นเอง ไม่ว่าจะมีข้อเสนอแนะ หรือ อยากให้เขียนเรื่องอะไร เพลงไหน ก็ฝากไว้ที่นี่แล้วกันครับ จะพยายามทำเท่าที่จะมีเวลาทำได้ แต่อาจจะต้องรอกันบ้างคงไม่ว่ากันนะครับ
ถ้าใครต้องการทักทาย เยี่ยมชม ก็ลงไว้ที่นี่ หรือที่ About ก็ได้ครับ ส่วนถ้าคำถามเกี่ยวเนื่องกับหน้าอื่นๆ ถ้าเป็นไปได้ขอให้ถามที่หน้านั้นๆครับ เพื่อนๆคนอื่นจะได้อ่านได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณครับที่สนใจ harmonica
JapHarmonica 
สวัสดีครับ คุณ Jap
อยากรบกวนถามร้านที่มี Golden Cup หลายๆ Key ในกรุงเทพ
พอจะจำร้าน และเบอร์โทรได้ไม๊ครับ
อยากได้ Golden Cup มาลองใช้ดู
อ้อ…ราคาตอนนี้ประมาณเท่าไหร่ได้ครับ
ขอบคุณครับ
Harmonicafe
สวัสดีครับ
ถ้าเริ่มสนใจอยากลอง Golden cup ก็ดึครับ ประหยัดดี
เรื่องราคา ตอนนี้ไม่ค่อยได้ติดตาม แต่ช่วง กย.-ตค. 53 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 80-120 บาทครับ ถ้าจำไม่ผิดจะมี 7 คีย์ คือ C D E F G A และ B หรือ Bb ไม่แน่ใจเท่าไหร่ (แต่น่าจะเป็น Bมากกว่า)
ส่วนร้านที่ขาย เนื่องจากบ้านอยู่แถวฝั่งธนฯ เลยไปเจอแถวพาต้า หรือไม่ก็หลังกระทรวง ที่ร้านมีสินก็มีครับ ลองแวะเข้าไปดูก็ได้ จะได้เลือก Hohner ไปด้วยเลย เบอร์โทรที่พอหามาได้ก็ 02-622-0896-8, 02-224-1748, 02-224-4669 อย่าลืมลอง crossover ด้วยนะครับ เผื่อจะติดใจเหมือนผม
ขอบคุณครับ ตอบทันใจดีจัง
พาต้านี่คือในห้างพาต้าปิ่นรึเปล่าครับ ผมไปดูพระบ่อย
ส่วนมีสินนี่ ไม่ได้ไปเกือบ 10 ปีแล้วมั้ง
ไม่รู้เปลี่ยนไปทางทีดีขึ้นรึเปล่า…
ต้องไปเยี่ยมหน่อยแล้ว ถ้าบริการดีขึ้น คงได้อุดหนุนกันเยอะ เพราะรุ่นใหม่ๆ นี่ผมไม่มีเลย ร้านนี้นับถือเรื่องความหลากหลาย มีมากรุ่นให้ชมจริงๆ (แต่ชมแล้วไม่ซื้อนี่ ผมโดนชักสีหน้าใส่เสียจนไม่ไปอีกเป็น 10 ปีเลย)
เดี๋ยวได้ข้อมูลอย่างไรจะได้แจ้งให้สมาชิกไปช่วยอุดหนุน ท่าทาง Golden Cup นี่จะเยี่ยมเหนือราคา (เคยดูงานประกวด Harmonica ในจีน Golden Cup เป็นสปอนเซอร์ ฝีมือ Tremolo แต่ล่ะคนนี่สุดยอดจริงๆ)
ใช่เลยครับ พาต้าปิ่นเกล้า
ส่วนร้านมีสินก็ลองคุยกับผู้ชายที่น่าจะเป็นลูกเจ้าของร้านก็ได้ครับ ถ้าจำไม่ผิดจะชื่อคุณหนุ่ม ไม่ได้ไปนานแล้วเหมือนกันครับ
แสดงว่าคุณ Japharmonica เป็นเจ้าของ Hohner Marine Band crossover แล้ว ไม่ทราบว่า แตกต่างจาก Marine Band กับ Marine Band Deluxe มากหรือไม่
ยังเลยครับ แค่ได้ลองเฉยๆ ตอนที่เข้าไปพอดีคุณลูกชายเจ้าของเอาตัวอย่างมาอวดครับ บอกว่าปลายปีจะสั่งเข้ามา เลยขอลองเล่นดู เห็นว่าเป็นรุ่นใหม่ ตัว comb ทำจากไม้ไผ่อัด (แน่นหนามาก) โดยส่วนตัวชอบเสียงจากไม้มากกว่าอยู่แล้ว (เดิมใช้ marine band ตลอด แต่ช่วงนี้ออกมาอยู่บ้านนอก เลยหยิบ special 20 มาสลับใช้บ้าง แต่ก็ไม่ถูกใจอยู่ดี) เลยรู้สึกว่าเพราะและเล่นง่ายดี
ถ้าจะให้เทียบกันทั้งสามรุ่น marine band classic ก็สมชื่อครับ เสียงอคูสติกดีกว่าพลาสติกและดีกว่าไม้รุ่นอื่นๆอยู่แล้ว
marine band deluxe จะปรับน็อตที่ยึดให้มากขึ้นและแน่นหนาขึ้น ทำให้ลมรั่วน้อยกว่า classic แถมตรง body ก็ปรับเล็กน้อย ทำให้เสียงกังวาลกว่าเดิม
ส่วน cross over จะใช้ comb เป็นไม้ไผ่ที่อัดแน่นหลายชั้น ทำให้ลมรั่วน้อยลงไปอีก น่าจะเท่าหรือดีกว่าพลาสติก แต่ยังคงได้เสียงของไม้ที่ตัวเองลองแล้วรู้สึกว่าดีกว่า deluxe
พูดไปก็เสียดาย เพราะถ้าตอนนั้นสอยตัวอย่างมา จะถูกกว่าตอนนี้มากเลยครับ
ไปจ่ายตลาดมาเรียบร้อยแล้วครับ นิสัยผมแก้ไม่หาย ถ้าอยากได้ก็ไปเอาเลย ไม่ชอบรอ
เจอลูกชายเจ้าของด้วย แต่เจอตอนจะกลับ จ่ายตังค์กับแกครับ
ส่วนคนที่อยู่ที่ตู้โชว์…ก็คนเดียวกับ 10 ปีที่แล้วแหละครับ…เหมือนเดิมครับ คงเป็นนิสัยของแกมั๊ง
ผมถามถึง Marine Band Cossover ก่อนเลยน่ะครับ เพราะผมดูในตู้มันไม่มี (มีแต่ Marine Band Deluxe) แกก็ดูในตู้ก็ไม่มี ผมก็ เอ้ คุณ Jap บอกมีนี่แต่ผมไม่ได้พูดอะไร บอกแต่ว่ามีคนฝากมาดูรุ่นนี้ เค้าก็ตอบกลับมาว่า มีแค่ในตู้นี่แหละ (จะว่าหมด หรืออะไรก็ไม่พูด)
ผมก็ ไหนๆ มาแล้วก็อุดหนุนซะหน่อย ก็เลยสั่งเอา Marine Band Deluxe Key C มาล่ะกัน เพราะในตู้เป็น Key A ระหว่างรอผมก็ถามรุ่นนี้เท่าไหร่ รุ่นโน้นเท่าไหร่ แกก็เปิด List ราคาตอบ (อ้อ ที่นี่ราคาติด กับราคาขายจะไม่ตรงกัน ก็ต้องถามทุกตัวแหละครับว่าราคาสุทธิน่ะมันเท่าไหร่ เพราะมันไม่ตรงกับราคาติด ผมไม่ได้คิดจะไปกวนโทสะอะไรเค้าหรอก) พอดีน้องเด็กผู้หญิงอีกคนเอา Marine Band Cossover มาให้บอกรุ่นนี้มีนี่พี่ ผมก็อ้าวมีเหรอ ก็ม่ะเอามาดูทั้ง Marine Band Cossover และ Marine Band Deluxe เลย (สองรุ่นนี้แตกต่างกันที่ไม้ Comb Marine Band Cossover จะเป็นไม้ไผ่ Marine Band Deluxe จะเป็น Rose Wood (เครื่องดนตรีจีนเรียกไม้แดง))
ระหว่างลองเสียงด้วยเครื่องลอง ผมก็ถามแล้วรุ่น Golden Melody กล่องสีแดงนั้นเท่าไหร่ครับ แกตอบราคาก็ติดอยู่ที่กล่องนั้นไง (อ้าว…ขี้เกียจเปิด List ก็ไม่บอกกันตรงๆ ) ผมเลยจบเลย พอและ เอา Marine Band Deluxe ก็พอ (เพราะที่ลัคกี้ของ Order อยู่ยังไม่มา) รุ่นอื่นเดี๋ยวผมไว้ซื้อที่ลัคกี้ดีกว่า (คิดในใจน่ะครับ ไม่ได้พูดออกไป…ฮา)
มีตอนจ่ายตังค์ถึงได้เจอลูกชายเจ้าของ ก็สอบถามอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อย น้องเค้าก็ใช้ได้ครับ ยินดีให้ข้อมูลรุ่น Marine Band Deluxe มีทุก Key ครับ (เปิด List ไล่ดูข้อมูล) Marine Band Cossover สั่งมาแค่ 2 key ครับ…ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ก็สรุปแล้วเป็นที่นิสัยเฉพาะบุคคลครับ คงเป็นคนเก่า คนแก่ ก็เลยอยู่กันมานาน (และคงอยู่อีกนาน 5 5 5)
วัยรุ่นทันใจดีครับ
ปกติผมจะเจอกับลูกชายเจ้าของร้านตลอด ไปจนจำหน้าได้แล้ว แวะทีไรเป็นต้องเสียเงินทุกที
ตกลง cross over เป็นอย่างไรบ้างครับ พูดแล้วก็ยังเสียดายไม่หายเลย
ส่วนรุ่น golden melody นี่ถือว่าดีเลย เสียอย่างเดียวตรงมันตั้งเสียงแบบ equal temperament บางคนเลยอาจจะไม่ชอบรุ่นนี้ แต่ถ้าเน้นเล่น melody แล้วถือว่าเสียงดีมาก
– ผมไปสอย Marine Band Crossover key C มาแล้ว คืนนี้จะทดสอบ ได้ผลอย่างไรจะแจ้งมา รอคอยสักนิด
ขอโทษครับที่เข้ามาช้า กำลังรอฟังผลการทดสอบด้วยครับ
พูดถึง equal tuning แล้วยังสงสัย
มีคุณ Jap มาให้ถามพอดี เพราะเห็นแต่ Piano เท่านั้นที่มักพูดถึงการ Tune แบบนี้
ใน Harmonica ทั่วไปเขา Tune กันแบบไหนครับ
แล้ว equal tuning มันแตกต่างจาก just tuning ยังไงสำหรับ Harmonica
ผมเห็นแต่รุ่นสูงสุดยอดหอคอยงาช้างของ Suzuki เท่านั้นที่มีให้เลือก (รุ่น Fabulous ) ว่าจะเอาแบบ equal tuning หรือ just tuning
ถ้า Golden Melody แตกต่างจากรุ่นอื่นที่เป็น equal tuning ผมว่ามันน่ายินดีสำหรับผมเอามากๆ เลย
ถ้าพูดถึง harmonica tuning แล้ว มีหลายแบบครับ แต่ที่ใช้กันบ่อยคือ just intonation (JI) กับ temperament equal tuning (TET) เคยมีโอกาสหาข้อมูลตอนดัดแปลง golden cup มาเป็น country tuning กับ natural minor (หมดงบซื้อ)
ตามมาตรฐานทางดนตรีแล้ว จะตั้งเสียงลา A=440 แต่เจ้า harmonica กลับชอบตั้ง A=443-444 เวลาเล่นกับเครื่องดนตรีอื่น เสียงก็จะเด่น (เหน่อ) ขึ้นมาชัดเจน แต่ก็มีบางรุ่นเช่น Hohner Golden melody ก็จะตั้งให้ A=440 มาเลย
ส่วนเรื่อง tuning ก็คล้ายกัน คือถ้าเป็น TET แบบ golden melody หรือ Lee Oskar major ก็จะตั้งเสียงแบบเป๊ะๆ เสียงก็จะไม่เหน่อ (แต่ก็จะรู้สึกว่าขาดเอกลักษณ์ไป) เลยเมาะกับการเล่น melody แต่เวลาเล่นเสียงประสานหรือเล่นคอร์ด เสียงก็จะออกมาเป็นตัวๆ ซึ่งถ้าปกติ จะตั้งเสียงแบบ JI เวลาเล่นเสียงประสานจะฟังดูกลมกลืนมากกว่า เสียงออกเหน่อนิดๆ ฟังดูมีเสน่ห์
ถ้าสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ลองไปที่ปรมาจารย์เลยครับ
http://www.patmissin.com/tunings/tunings.html
ohw.se/hca/tntheory.php
จะได้ลองฟังเสียงดู ว่าต่างกันยังไง
เมื่อก่อนเคยคุยกับอาจารย์พิสิกส์ที่เล่นดนตรี (ไวโอลิน) เกี่ยวกับเรื่องความถี่ของแต่ล่ะตัวโน๊ต ค่ามาตราฐานที่ A 440 เหมือนกันแต่โน๊ตตัวอื่นไม่เท่ากัน ฟังแล้วไม่รู้เรื่องเลย
พอคุณ Jap พูดเรื่อง equal tuning ผมกลับไปอ่านหัวข้อที่เคยคุยกัน…ถึงบางอ้อ เลย
เค้าเล่นกับถึงขนาดโน๊ตต้องไม่เพี้ยน และความถี่ต้องไม่ผิดด้วย (เค้าบอกวงไทยมักเล่นแค่ไม่เพี้ยนโน๊ต แต่ไม่สนใจความถี่ ขณะที่ออเคสต้าฝรั่งนี่ความถี่ยังเปะๆ ทำให้ดนตรีกลมกล่อม…เค้าว่างั้น…แต่ผมฟังไม่ออกหรอก 5 5 5 )
ความจริงเค้าวัดเป็น Sine Curve มาให้ดูด้วย แต่เอามาผมก็อธิบายไม่ถูก เอาเป็นเข้าใจแล้วครับ
เรื่องของดนตรีก็เกี่ยวเนื่องกับฟิสิกส์แล้วก็คณิตศาสตร์อยู่ค่อนข้างมากครับ
อย่างเช่นพวกเครื่องเป่าทั้งหลาย ก็จะมีเรื่อง harmonic เกือบทุกเครื่อง โดยเฉพาะ trumpet นี่ชัดมาก
ยังดีที่ harmonica จัดอยู่ในประเภท free reed เรื่องพวกนี้เลยไม่วุ่นวายมาก
จะมีที่เรื่องมากหน่อยก็เรื่อง close reed และ open reed ซึ่งเป็นหลักการของ overbend
แต่ถ้าแค่เพื่อความบันเทิงก็ไม่ต้องรู้มากให้ปวดหัวก็ดี
สรุปอีกทีคือ ถ้าเล่นแบบปกติ เสียงเดียวบ้าง เสียงประสานบ้าง ก็ just tuning (เกือบทุกรุ่นจะเป็นแบบนี้)
แต่ถ้าเน้น melody ก็แนะนำ equal tuning ครับ
– ผลการทดสอบ คงจะเห็นอยู่ใน Harmonicafe blog แล้ว จาก Harmonica ที่ผมมีอยู่ ผมชอบ เรียงจากน้อยไปหามาก ดังนี้
Hohner special 20
Suzuki Pro Master
Marine Band Classic
Suzuki Manji
Marine Band Deluxe
Marine Band Crossover
คือผมชอบ Comb ไม้มากกว่า โลหะ สำหรับ Comb plastic ผมไม่ชอบเอามากๆ
สำหรับ Crossover ที่เด่นคือ มีการตอบสนองดีมาก กินลมน้อย(ลมไม่รั่ว) และไม่อั้น(ไม่ต้องใช้แรงเป่ามาก) ตรงนี้มีความแตกต่างจาก Pro Master ชัดเจน Pro Master กินลมน้อยก็จริง แต่ต้องออกแรงเป่ามากกว่า Crossover เวลาเป่า Crossover รู้สึกสบายๆ ไม่เหนื่อย อีกอย่างผมชอบ Cover plate ของ Marine Band ทุกรุ่น ผมว่า Classic ดี
– สำหรับ Hohner special 20 เป็นรุ่นที่ผมค่อนข้างผิดหวัง คือก่อนที่จะได้มา ผมตั้งความหวังกัน รุ่นนี้มาก เนื่องจากติดตามจาก Internet ทั้งคุณ JP Allen ก็แนะนำว่า เป็นรุ่นที่ Bend ง่ายที่สุด รวมถึงอีกหลายๆท่าน แต่ผมว่ามันไม่ใช่จากคุณภาพของ Hohner special 20 แต่มันมาจากผมไม่ชอบเสียงของ Harmonica ที่เป็น Comb plastic ผมว่าเสียงมันออก อูมๆ ออกไปทางเสียงขลุ่ย แต่ผมชอบเสียง Harmonica ที่เสียงคล้าย แคน ซึ่ง Marine Band ทุกรุ่นเสียงออกแนวนี้ สำหรับ Pro Master ก็เช่นกัน ผมว่านอกจากต้องออกแรงเป่ามากกว่า Crossover แล้ว ผมว่าทุกอย่างดีหมด โดยเฉพาะ ตัว Comb และ Cover plate ที่ทำจาก Stanless แล้วชอบมาก ทำความสะอาดง่าย ดูใหม่และสดใสตลอด โดยเฉพาะ สกรูของ Suzuki ออกแบบ ได้ดีมาก ข้อนี้ Hohner สู้ Suzuki ไม่ได้ แต่ Hohner Crossover ทำคะแนนข้อนี้มาใกล้เคียงกับ Suzuki แต่เสียงของ Pro Master ออกจะใสไปนิด ซึ่งผมไม่ชอบ แต่ Suzuki Maji ออกแบบ Comb ที่ทำจาก Resin ให้เสียงใกล้เคียงกัน Comb ไม้ แต่ลมรั่วมากไปนิด
– โดยสรุป ราคาของ Crossover ที่ต้องจ่ายมากกว่า Suzuki Manji , Marine Band deluxe จำนวน 300 บาท ผมว่าคุ้มค่า สำหรับท่านที่ กำลังหา Harmonica คู่ใจ และไม่เกี่ยงราคา 1,700 บาท ติดต่อได้ที่ร้าน มีสิน ถ้าเกี่ยงราคา 1,700 บาท Manji , Marine Band deluxe และ Pro Master ก็น่าสนใจ
ขอบคุณครับ สงสัยรสนิยมจะคล้ายกันแน่เลย ชอบเสียงแนวอคูสติกมากกว่า เห็นด้วยกับรุ่น special 20 ครับ มันเหมาะสำหรับมือใหม่ แต่ยังไม่ถูกใจเสียงเท่าไหร่
เกือบลืมโฆษณาว่าที่คุณมานะขอคลิปอีกเรื่องมา ตอนนี้ลงให้แล้วนะครับ เรื่อง bending หวังว่าคงจะพอฟังได้นะครับ
เป็นมือสมัครเล่นค่ะ หยิบมาเป่าตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ เป็นแต่ไล่เสียง โนตเพลง ไปเรื่อย ๆ เอาค่ะ มี yamaha รุ่น virtuoso #24 (บางช่องเสียงไม่ค่อยออกแล้ว) กับของจีน goldenbutterfly 24 ช่อง น่าจะเกิน 20 ปีแล้วค่ะ อยากจะซื้อตัวใหม่ เสียงให้ดีกว่า yamaha แต่ไปเดินดูมีแต่ตัวเล็ก เลยไม่กล้าซื้อมาค่ะ จากที่คุณ jap แนะนำ crossover มันก็ตัวเล็ก แล้วจะเป่าได้จนครบเพลงหรือเปล่าคะ อยากได้แบบเสียงดี เป่าง่าย อันเดียวก็ใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยนคีย์ไปมาค่ะ
อยากให้แนะนำว่า จะซื้อรุ่นไหนดี กับมือสมัครเล่นค่ะ (ถ้าไม่เกิน 5000) ชอบเป่าเพลง พักผ่อนอยู่กับบ้าน สบายดีค่ะ ขอชื่อร้านด้วยนะคะ อยากได้มานานมาก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน
ขอบคุณครับที่สนใจ harmonica
ตั้งงบไว้ 5,000 บาทเลยเหรอครับ (สูงมาก) ถ้าให้แนะนำก็ประมาณพันบวกลบก็แจ๋วแล้วนะครับ ถ้ายังไงอ่านตรงนี้ดูก่อนก็ได้ครับ
อย่างน้อยควรจะเลือกชนิดให้ได้ก่อนครับ ว่าสนใจแบบไหน diatonic, tremolo หรือ chromatic จะได้เลือกได้ง่ายขึ้น ลองหาคลิปเสียงเปรียบเทียบดูก่อนก็ได้ครับ หรือจะรอที่นี่ก็ได้ (แต่อาจจะต้องรอนิดหน่อย)
เช่น ของ suzuki
พอลองฟังแล้วชอบเสียงแบบไหน ค่อยเลีอกรุ่นครับ เพราะทุกชนิดสามารถเล่นพื้นฐานได้ใกล้เคียงกัน
อย่างเช่นถ้าชอบ diatonic ถึงจะมีแค่ 10 ช่อง แต่ก็ประเภทจิ๋วแต่แจ๋วนะครับ เล่นได้ 3 octave (หมายถึงเล่นจาก โด-เร-มี-ฟา-ซอล-ลา-ที-โด ได้สามรอบ) ตัวเล็ก พกง่าย เสียงก็ใส กังวาลกว่าแบบอื่น
ถ้าชอบ tremolo (แบบที่มีอยู่) ก็จะตัวยาวกว่า เสียงก็จะออกก้องๆเพราะมันมีลิ้นสองลิ้นต่อหนึ่งเสียง เริ่มต้นได้ง่ายที่สุด น่าจะหาของจีนได้ง่าย แต่หาของที่คุณภาพดียากกว่า รวมทั้งหาคีย์ยากกว่า (บ้านเราเห็นแค่ C major กับ A minor นานๆครั้ง)
ถ้าชอบ chromatic ก็เล่นมันได้ทุกคีย์เลยตั้งแต่ต้น ไม่ต้องอาศัยเทคนิคพิเศษช่วย แต่ก็แพงกว่า ดูแลรักษามากกว่า
แนะนำตัวที่เป็นพลาสติกจะเริ่มเล่นได้ง่ายกว่า ยกเว้นถ้าชอบเสียงแบบอคูสติกแบบผมหรือคุณมานะ ก็เชียร์รุ่นที่เป็นไม้ ไม่ได้แนะนำให้ทุกคนเลือก crossover นะครับ เพียงแต่ชอบเสียงมันมากกว่ารุ่นอื่นก็เท่านั้น อยากให้ได้อย่างที่ชอบดีกว่าครับ ขออนุญาตยกตัวอย่างคุณมานะ ที่อ่านจากเว็บเมืองนอก เชียร์ Hohner special 20 แต่พอได้มาแล้วก็ไม่ชอบเสียง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี ที่จริงถือว่าเป็นรุ่นที่ดีมากสำหรับมือใหม่หรือแม้แต่เก่าก็ตาม
ตัวแทนจำหน่ายเท่าที่ทราบตอนนี้ก็มี
ธีระมิวสิค (อยู่ที่เวิ้ง) 02-222-8861 ติดต่อคุณต้อม เป็นตัวแทนจำหน่าย Suzuki (Japan)
มีสิน (แถวหลังกระทรวง) 02-622-0896-8, 02-224-1748, 02-224-4669 เป็นตัวแทนจำหน่าย Hohner (Germany), Golden cup (China)
ถ้ายังไงลองถามมาอีกทีครับ ว่าชอบแบบไหน จะได้พอช่วยเลือกได้ เพราะมีรายละเอียดเยอะครับ ทั้งเรื่องชนิด ยี่ห้อ รุ่น คีย์ ฯลฯ ถ้าให้ดีต้องบอก spec คร่าวๆมาครับ จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
– ถูกใจครับสำหรับ Clip bending ภาษาไทย ฟังเข้าใจง่าย ภาษาประกิต ฟังแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
– ต่อไปคงต้องขอ Clip ที่เป็นเพลงและมีเนื้อร้องประกอบด้วย ถ้ามี Tab ด้วยก็จะเป็นการดี
– อีก 2-3 เดือน ผมอาจจะออกมาร่วมแจม รอให้ Bend ให้คล่องกว่านี้ก่อน ตอนนี้กำลังฝึกวิทยายุทธอยู่
ขอบคุณครับที่พยายามฟังให้รู้เรื่อง เพราะกลัวว่าจะงง พูดเองบางทียังงงเองเลย
ส่วนเรื่องเพลง ลองบอกมาก็ได้ครับ ไม่อย่างงั้นก็ลงแบบตามใจฉัน เดี๋ยวจะไม่ถูกใจ เพราะปกติเวลาเปิดเพลงฟังแล้วคนอื่นชอบบอกให้ปิดเป็นประจำเลย
ขอตอบคุณจันอีกทีแล้วกัน เผื่อมองไม่เห็นข้างบน ยังไงก็อ่านข้างบนก่อนนะครับ จะได้ต่อเนื่องกัน พอเลือกชนิดได้แล้วจะได้ง่ายขึ้น
ขอเดาจากโจทย์ที่มีนะครับเริ่มจาก
– เป็นมือสมัครเล่นค่ะ
– มี yamaha รุ่น virtuoso #24 กับของจีน goldenbutterfly 24 ช่อง
– อยากได้แบบเสียงดี เป่าง่าย
– อันเดียวก็ใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยนคีย์ไปมาค่ะ
หมายความว่า เดิมมี tremolo อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นชนิดที่เล่นง่ายที่สุด แต่ข้อเสียคือ จะเล่นเสียงพวกชาร์พ/แฟลตเลยไม่ได้ ต้องใช้เทคนิคช่วย หรือไม่ก็ต้องเล่นทีละสองตัวห่างกันครึ่งเสียง เช่น key C กับ C#(Db) หรือซื้อรุ่นที่มีครึ่งเสียงด้วย เช่น yamaha ss220 หรือ tombo s-50
แต่ถ้าอยากได้แบบเล่นได้ทุกคีย์ แต่หรูหน่อย และต้องดูแลมากกว่า แถมเวลาเล่นอาจต้องใช้นิ้วช่วยกดปุ่มเพื่อให้เสียงสูงขึ้นครึ่งเสียง ก็ต้องใช้ chromatic ซึ่งถ้าให้ช่วยแนะนำสำหรับมือใหม่ ก็มีตั้งแต่ Hohner chrometta, Hohner CX-12, Hohner super chromonica, Suzuki chromatix หรือถ้าชอบเสียงแนว tremolo ก็ต้อง Suzuki tremolo chromatic
ส่วนถ้าติดใจเสียงของ diatonic ต้องบอกว่าเป็นตัวที่มีลูกเล่นมากสุด มีเทคนิคให้หัดมาก (ตอนเริ่มอาจจะรู้สึกง่าย) ถ้าเป็นประเภทนี้ ต้องฟังเสียงว่าชอบโทนไหน แบบพลาสติก ไม้ หรือโลหะ ถ้าเป็นพลาสติกก็จะเริ่มง่ายสุด โลหะก็แพงสุด
สรุปคือ เลือกโทนเสียงที่ชอบก่อนครับ ค่อยเลือกรุ่นทีหลัง
– ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคน คุณจัน เริ่มต้นเหมือผมคือแบบ Tremolo แต่พอผมได้ แบบ Diatonic(Hohner Marind Band) มา ผมแทบไม่ได้จับ Tremolo อีกเลย
1.เสียงเพราะกว่า
2.ลูกเล่นมากกว่า
3.เวลาเป่าไม่ต้องเลื่อน Harmonica มาก เพราะ 1 ช่องมี note 2 ตัว ดูด 1 ตัว เป่า 1 ตัว หาก Bend ได้ 1 ช่อง ก็จะได้ Note มากกว่า 2 ตัว
4.สามารถเป่าเป็น ทั้ง Melody Chord และ Bass ไปพร้อมกันได้
5.ตัวเล็ก พกพาง่าย ตอนนี้ผมมีติดกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา ขับรถไปก็เป่า Harmonica ไม่เครียด ไม่หงุดหงิด
6.เหมาะกับการเป่า ประกอบการร้องเพลง
– Crossover จิ๋วแต่แจ๋ว ตัวนี้ หยิบได้เลย ผมกับคุณ Jap เชียร์เต็มที่ ตัวเล็กๆ เป่าได้ครบเพลงทุกเพลงครับ ควรซื้อ key C ถ้าสนใจตัวนี้ ติดต่อที่ ร้าน มีสิน (แถวหลังกระทรวง) 02-622-0896-8, 02-224-1748, 02-224-4669
– ได้ Harmonica มาแล้ว ฝึกตามที่คุณ Jap แนะนำ ไม่เกิน 1 เดือน เป่าเป็นเพลงได้แน่
– เงินส่วนที่เหลือ เมื่อเล่นเป็นแล้ว ก็เอาไว้หาซื้อ key อื่น หรือรุ่นอื่น ตามกิเลสความอยากที่จะตามมาเหมือนผม แต่มันก็มีความสุขดีนะ
ขอบคุณที่ช่วยออกความเห็นครับ แต่อย่าเพิ่งดูถูกเจ้า tremolo นะครับ ถ้าเล่นเก่งๆ เทคนิคดีๆแล้ว ก็เพราะไม่แพ้ diatonic นะครับ ไว้ซ้อมก่อนแล้วค่อยมาแนะนำกันอีกที
– เพิ่มเติมอีกนิด เดี๋ยวคุณจัน จะสงสัยว่า ทำไมต้องซื้อ key อื่นเพิ่ม ใช้ตัวเดียวไม่ได้หรือ หรือว่า มีตัวเดียวแล้วเป่าได้ไม่ครบเพลง คำตอบคือ ตัวเดียวเป่าได้ครบทั้งเพลงแน่นอน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเสียงคนเรา แต่ละคนก็จะมีระดับเสียงไม่เท่ากัน บางคนเสียงสูง บางคนเสียงต่ำ ดังนั้นคนที่มีเสียงสูง ถ้าเราจะเป่า Harmonica ให้เขาร้องเพลง ก็ต้องใช้ Harmonica key สูง เช่น key D หรือ key E แต่ถ้า คนเสียงต่ำ เราก็ต้องใช้ Harmonica key ต่ำ เช่น key A หรือ key G แต่ถ้าถามว่า ถ้ามี Harmonica key C ตัวเดียวเป่าได้ทุกเพลงไหม โดยเป่าเล่นเอง ไม่ได้ไปเล่นให้คนอื่นร้อง หรือ ไม่ได้ไปร่วมวงกับดนตรีอื่น ถ้าเป่าเล่นคนเดียว เป่าได้ทุกเพลงครับ และ Harmonica ดีตรงที่ เราฝึกกับ Harmonica key C ถ้าเรามี Harmonica key A เราก็เป่าเพลงนั้นเหมือนกับเมื่อเป่า key C เพียงแต่ระดับเสียงจะต่ำลงมา มันง่ายมาก และ Harmonica ท่านไม่ต้องไปตั้งเสียง เหมือนกีต้าร์ เสียงมาเป็นมาตรฐานเลย
เสริมนิดนึงครับว่า diatonic แบบ 10 ช่องจะเล่นได้ 3 octave หรือสามช่วงเสียง ซึ่งถ้าเป็น tremolo ก็ต้องอย่างน้อย 21 ช่องขึ้นไป หรือถ้าเป็น chromatic ก็ต้อง 12 ช่องขึ้นไปครับ
ส่วนจะเล่นเพลงได้แค่ไหน ขึ้นกับการฝึกหัด เพราะบางโน้ตต้องใช้ความสามารถมากหน่อย แต่ถ้าเพลงง่ายๆก็เล่นได้แน่นอนครับ
ขอรบกวนหน่อยนะครับ
พอดีผมเก็บตังค์ได้จำนวนหนึ่งและกะซื้อฮาร์โมนีก้าคู่ใจ คราวนี้กะอยู๋กะมันตลอดเลย
ที่ผมดูไว้คือMarine band crossover ครับแต่ผมดูหลายร้านมากๆกลับไม่มีเจ้าตัวนี้เลย
ผมเลยอยากลองไปร้านมีสินดูซักครั้ง
ซึ้งพอรูว่าอยู่หลังกระทรวง แต่มันอยู๋ตรงไหนของหลังกระทรวงอ่า(ยังไม่เคยไปเลย)ไม่รูว่าร้านมันอยู๋
จุดไหนของหลังกระทรวงอ่ะครับ ขอพี่ๆช่วยแนะนำหน่อยครับ(มีแผนที่ระบุมั้ยครับ แหะๆ)
หรือว่ามีร้านไหนที่มีcrossoverนอกจากมีสินก็ช่วยแนะนำด้วยครับ ผมอยู่บางกะปิ เลยอยู๋ไกลมากๆ
ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณครับที่สนใจอีกคน
เรื่อง crossover ว่ามีขายที่ไหนบ้างคงตอบว่าไม่ทราบครับ ต้องลองแวะเข้าไปดู แต่คิดว่าตามร้านทั่วไปคงไม่สั่งรุ่นแพงๆมาเก็บไว้ เพราะมันเสี่ยงกับทางร้านเองที่จะขาดทุน
ส่วนที่ร้านมีสิน เป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้ว ก็น่าจะมีครับ แต่อาจจะต้องโทรเช็คดูก่อน เผื่อของหมดหรือไม่มีคีย์ที่ต้องการ จะได้ไม่เสียเที่ยว หรืออาจจะลองถามเขาว่ามีร้านไหนที่รับไปขายต่อบ้าง (แต่เขาอาจจะไม่ตอบก็ได้นะครับ)
มีสิน (แถวหลังกระทรวง) 02-622-0896-8, 02-224-1748, 02-224-4669
ส่วนตำแหน่ง ถ้าไปจากสนามหลวงก็ให้มาแถวพระแม่ธรณีฯ แล้วข้ามคลองมา เลยรั้ววัดศิริฯก็จะมีพวกเครื่องดนตรีกับอุปกรณ์เดินป่าขาย เดินไปอีกหน่อยก็เห็นป้ายครับ อยู่ก่อนถึงกระทรวงมหาดไทยครับ ถ้ายังงง ลองหา ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีสิน จาก google map ดูครับ
ขอบคุณมากครับวันนี้ผมไปสอยมาแล้ว
คนขายก็เหมือนอย่างที่เค้าล่ำลือกันจริงๆแต่ผมไม่สนหรอกผมสนสินค้ามากกว่า
เสียงเพราะมากเมื่อเทียบกับcombแบบพลาสติก
ได้เพื่อนคู่ใจและไปไหนไปกันขอบคุณคุณjapharmonicaนะครับสำหรับแผนที่
ผมก็คงจะสิงในเว็บนี้ต่อละครับมีข้อมูลดีๆเยอะมากเลย
ขอโทษครับที่หายไปนาน ไม่ทราบว่าเล่นไปถึงไหนแล้วครับ อย่าลืมเล่นมาโชว์กันบ้างนะครับ
– ผมขอแก้ความเห็นของผม ผมขอแก้ความเห็นที่ว่า Diatonic เสียงเพราะกว่า Tremolo และ Chromatic อย่างที่
คุณ Japharmonica บอก ความไพเราะ อยู่ที่ผู้เล่น ตอนนี้ผมชอบเล่นเพียง นกขมิ้นเหลืองอ่อน ด้วย Tremolo ส่วน Chromatic ผมคงต้องทำความคุ้นเคยต่อไป พอเล่นได้ แต่เล่นยังไม่ไพเราะ
อีกหน่อยก็เล่นได้เพราะครับ ไม่ยากเลย
สวัสดีครับ ผมมือใหม่อะครับ ขอรบกวนพี่ๆ สอบถามหน่อยครับว่า เจ้าตัว Tremolo มันไม่สามารถ Bend ได้หรอครับ แล้วเทคนิคของ Diatonic กับ Tremolo มันต่างกันเยอะไหมครับ เพราะที่บ้านมีแต่ Tremolo เลยเอามาฝึกก่อนอะครับ ส่วนตัวก็ชอบเสียงมันด้วยอะครับ
สวัสดีครับ ดีใจที่มีคนสนใจมากขึ้น ขนาดช่วงนี้ไม่ค่อยได้มา update เลย
สำหรับเจ้า tremolo นี่ มันก็สามารถ bend ได้เหมือนกันครับ แต่จะลำบากกว่าเล็กน้อย ส่วนเทคนิคอื่นๆก็มีต่างกันบ้าง ถ้าเมืองนอกมักจะหัด diatonic ก่อนแล้วจะง่ายกว่า แต่ที่จริงแล้วจะเริ่มจากตัวไหนก่อนก็ได้ ไม่มีปัญหา ถ้ามีโอกาสจะแนะนำ tremolo เหมือนกันครับ เพราะจะหาได้ง่ายกว่า
ขอบคุณมากครับ ถ้าเริ่มหัดจริงๆ ระหว่างตัว tremolo กับ diatonic อันไหนเหมาะกับการเริ่มต้นดีกว่ากันอะครับ แล้ววิธี bend มันเหมือนกันใช่ไหมครับ จริงๆมีเรื่องสงสัยเยอะเลยแต่ค่อยๆถามดีกว่า ขอบคุณล่วงหน้าครับ
แล้วแต่ชอบเลยครับ ชอบเสียงตัวไหนก็เริ่มตัวนั้น
แต่ถ้าให้เทียบกันแล้ว tremolo จะตัวยาวกว่า ทำให้เล่นเสียงเดียวง่ายกว่า แต่ก็ต้องเลื่อนเวลาเปลี่ยนโน้ตมากกว่า
ส่วนการ bend นั้นหลักการคล้ายกันครับ แต่ถ้าเล่นเป็นแล้ว tremolo จะได้หลากหลายกว่า แต่ต้องอาศัยความชำนาญมากกว่า
ขอบคุณมากครับผม ถ้ามีอะไรสงสัยเพิ่มเติมจะเข้ามาสอบถามนะครับ รอติดตามข้อมูลต่อไปอยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้นะครับผม
ขอบคุณครับ ยินดีต้อนรับตลอดครับ
คือผมกำลังจะหัดเล่นและกำลังจะหาซื้อเลยหาข้อมูลก่อน
อยากรู้ว่า tremolo มันสามารถเล่นเสียงเยอะไหม เช่นพวก Major กับ Minor
ละใช้เทคนิค Bend ได้ไหมอะครับ
ใจจริงอยากเล่นทั้ง Diatonic และ Tremolo เลย
แต่ตอนนี้งบไม่ค่อยมี เลยจำต้องเลือกซักตัวก่อน
สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ
เรื่อง tremolo นี่ก็ต้องตอบเหมือนเดิมครับ ว่ามันสามารถ bend ได้ แต่อาจจะยากกว่าเล็กน้อย
ส่วนที่ถามว่าเล่น major-minor ได้ไหม ต้องบอกว่า ถ้าไม่ bend ก็สามารถเล่นเพลงทั่วไปได้เกือบหมด เพียงแต่อาจจะไม่ตรงกับคีย์จริงๆของเพลง ซึ่งเรื่องนี้จะหาโอกาสมาแนะนำอีกทีครับ
ขอบคุณมากครับ
ตอนนี้ก็ทำให้สามารถตัดสินใจได้แล้วละครับ
ไว้จะเข้ามาศึกษา+สอบถามอีกนะครับ
ขอบคุณครับ
ไม่เป็นไรครับ ไว้เลือกได้ก็ลองเขียนเหตุผลแนะนำเพื่อนๆก็ได้ครับ หรือไม่ก็ลองลงคลิปเลยก็ได้ครับ
ขอถามพี่ๆหน่อยครับ ผมbendได้แต่over bendทำไม่เป็นช่วยสอนหน่อยวิธีหน่อยครับ_/\_
ขอบคุณครับ
overbend เลยเหรอครับ ที่หัดเองนี่เป็นปีๆเลยครับ ยากเหมือนกัน ต้อง bend ได้จนชำนาญมาก ทั้งดูดและเป่าด้วยนะครับ แล้วจะหาโอกาสมาเล่าให้ฟัง
สวัสดีค่ะ ขอสมัครเป็นศิษย์สักคนนะคะ พอดีตอนนี้มี Harmonica ของ Suzuki Easy Rider อยู่ในมือ แต่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับตัวโน๊ตมาก่อนเลย อยากเล่นมาก รบกวนช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะว่า ต้องเริ่มเล่นยังไง
ยินดีต้อนรับครับ ที่จริงแล้ว harmonica ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องโน้ตก็เล่นได้ครับ เป็นเครื่องดนตรีที่เริ่มต้นง่ายมาก ยิ่งถ้าพอมีความรู้บ้างก็ยิ่งไปไวเลยครับ ไม่ต้องกังวล เพราะจะค่อยๆเสริมกันเรื่อยๆ ลองอ่านหัวข้อก่อนๆแล้วลองค่อยๆหัดตามดู น่าจะพอเล่นได้ไม่ยากครับ
– คุณ Orair ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้ซื้อ Suzuki Harp Master ที่ร้าน ธีระมิวสิค ขายตอนนี้ราคาถูกว่าต่างประเทศมาก สำหรับ Easy Rider ผมไม่เคยเล่น แต่ผมเคยเล่น Hohner Silver star เล่นยาก ลมรั่วมาก ติดต่อที่เบอร์ 02-222-8861 เขาบริการส่งให้ด้วยหากอยู่ต่างจังหวัด ผมซื้อมาหมดทุก keys ที่ร้านธีระมิวสิค มี และกำลังฝากคุณ Jap ซื้อ Keys ที่ร้าน ธีระมิวสิคไม่มี ผมจะเก็บ Harp Master ให้ครบทุก keys
– สำหรับ Easy rider เก็บเอาไว้หัดปรับ Reed gap ซึ่งคุณ Jap รับปากกับผมว่าจะช่วยลงคำแนะนำใน Blog ให้ ผมก็กำลังรออยู่ ทราบวาตอนนี้คุณ Jap มีภาระมาก ก็ต้องใจเย็นๆ
– เทคนิกการเล่น ก็ศีกษาจากคำแนะนำของคุณ Jap และฝึกฝนทุกวัน ก็จะสามารถเล่น Harmonicaได้ดั่งใจแน่นอน
ขอบคุณครับที่ช่วยตอบแทนให้ก่อน เรื่อง harp master น่าจะเป็นช่วงปลายเดือนนะครับ
ส่วนเรื่องการปรับแต่ง น่าจะอีกไม่นานครับ เพราะตอนนี้ยังไม่ค่อยกล้าเล่นมากนัก แต่ถ้าปรับแต่งก็พอไหว แต่ต้องขอเรียบเรียงก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวทำตามแล้วเจ๊งขึ้นมาแล้วคงจะไม่ดี
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ เท่าที่อ่านจากข้างบนลงมาทั้งหมด ก็ยัง งง อยู่ดี แหะๆ
– สำหรับคนเพิ่งหัดเล่น ถ้าใช้ easy rider มันจะช่วยให้เล่นง่ายขึ้นมั้ยคะ
– ทำไมต้องมีหลาย keys แล้ว easy rider เป็นคีย์อะไร
– สมมติว่าเราจะเป่าเพลงๆ หนึ่ง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าท่อนนี้เป่าหรือดูดหรือเป่าที่รูไหน
อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ 🙂
อย่างที่หลายท่านช่วยกันตอบครับ ยิ่งเครื่องที่มีมาตรฐานการผลิต ก็จะเล่นง่ายกว่า เจ้า easy rider นี่ถือเป็นรุ่นราคาประหยัดครับ เริ่มไม่ยาก แต่ก็มีง่ายกว่า ประมาณนั้น
ส่วนเรื่องทำไมต้องมีหลายคีย์ ก็คล้ายกับนักร้อง ที่บางคนเสียงสูง บางคนเสียงต่ำ ร้องเพลงเดียวกันก็ฟังออกว่าเป็นเพลงเดียวกัน แต่เสียงสูงต่ำต่างกัน หรือถ้าเคยร้องคาราโอเกะ บางเพลงก็ร้องเสียงไม่ถึง เลยต้องลดคีย์ของเพลงให้ต่ำลง จะได้ร้องง่ายขึ้น เช่นลดจากคีย์ D เป็น คีย์ C หรือ B เป็นต้น
ดังนั้นถ้าเราเริ่มเล่นจากคีย์ใดคีย์หนึ่ง สมมุติว่าเล่นเสียง โด เร มี โดย เป่าช่อง 4 ดูดช่อง4 และ เป่าช่อง5 ของ harmonica คีย์ C แล้วเราเปลี่ยนไปเล่น harmonica คีย์ D, E หรือ F ก็ตาม เวลาเราเล่นช่องเดิม ก็จะได้เสียงคล้ายเดิม เพียงแต่เสียงจะสูงต่ำไม่เท่ากันเท่านั้น ทำให้เราสามารถเล่นได้ไม่ยาก
ส่วนการเล่นว่าจะดูดช่องไหน เป่าช่องไหน ลองสักพัก เดี๋ยวก็จะรู้เองครับ สมองเรามีความสามารถมากกว่าที่เราคิด อย่างที่คนหัดเล่น harmonica ส่วนใหญ่จะเล่นแบบ by heart เกือบทั้งนั้น แต่ถ้าจะเล่นแบบ improvisation อาจต้องมีความรู้พื้นฐานเล็กน้อย ซึ่งถ้ามีเวลาก็จะเล่าให้ฟังครับ
– เรียนคุณ Orair เรื่องงง เป็นเรื่องปกติครับ ตอนผมเล่นใหม่ๆ ก็งงเป็นไก่ตาแตกครับ อะไรคือ Diatonic อะไรคือ Tremolo อะไรคือ Chromatic อ่านใน Internet อยู่หลายวันกว่าจะเข้าใจ Easy Rider ไม่ได้หมายถึงรุ่นที่เล่นง่ายที่สุด แต่มันเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดของ Suzuki ที่ผมแนะนำ รุ่น Harp Master ด้วยเห็นว่าราคา ประมาณ 500 บาท เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วคุ้มมาก เมื่อเรามี Harmonica คุณภาพดีๆ การฝึกฝนก็ง่าย ตอนที่ผมเอา Hohner รุ่น Silver Star มาลองเล่นก็เกือบถอดใจ มันเล่นค่อนข้ายาก แต่พอไปได้ Hohner Marine Band ทำให้มีกำลังใจมากขึ้นเพราะเล่นง่ายขึ้น
– ส่วนที่ถามว่าทำไมต้องมีหลาย key เพราะเพลงมันมีหลาย key ครับ แต่คุณ Orair ยังไม่ต้องไปกังวลเรื่อง key เริ่มต้นที่ Harmonica key C ก่อน เอาไว้เล่นเป็นแล้ว คุณ Orair จะทราบด้วยตนเองว่า ต้องการ Harmonica key ไหนเพิ่ม
– การเริ่มต้น ให้อ่านในหัวข้อ Playing Technique ให้เข้าใจ ฝึกการคาบ Harmonica ให้ถูกต้อง ฝึกหัด การเป่าให้ได้ Single note ฝึกการ Bend เมื่อได้แล้วก็ ค่อยหัดเล่นเพลง การเล่นเพลงก็จะมี Tab ที่บอกการเล่นว่าจะ เป่า ดูด ช่องไหน แต่ที่สำคัญ ซ้อมๆ ครับ ซ้อมบ่อยๆ ดังที่ว่า ” หนึ่งวันว่างเว้นดนตรี เจ็ดวันจากนารีเป็นอื่นๆ” ครับถ้าอยากเก่งต้องซ้อมทุกวัน และต้องใจเย็นๆ วันเวลาที่ผ่านไป ความสามารถเราจะค่อยๆเพิ่มขึ้น ถ้าฝึกหัดทุกวัน อย่างช้า 1 เดือนน่าจะพอเล่นเพลงได้ แล้วจะสนุกกับ Harmonica เหมือนผมทุกวันนี้ สนุกกับ Harmonica มาก
ขอบคุณครับที่ช่วยตอบอย่างละเอียด แล้วจะพยายามเพิ่มเติมเรื่อยๆครับ
คุณมานะ รับสอนมั้ยคะ เพราะถ้าเรียนรู้ด้วยตัวเอง เกรงว่าจะปล่อยทิ้งไปเหมือนคราวที่แล้ว ถ้ารับสอนจะรีบไปซื้อ Harp Master เลยทีเดียวเชียว
ค่อยๆหัดแล้วพอมีปัญหาก็มาถามดูก็ได้ครับ เผื่อคนอื่นๆมีข้อสงสัยคล้ายกัน จะได้ช่วยกันครับ
มาตอบแทนพี่มานะได้เลยครับว่า ขืนมาเปิดสอน Harmonica ด้วยนี่ หลวงท่านจะว่าเอา
พอดีผมเคยคุยกับน้องที่เรียนทางดนตรี และเล่น Harmonica อยู่ด้วย รับสอนอย่างเป็นทางการครับ
ลองไปดูตาม Link ด้านล่างนี้เลย
http://www.pantown.com/board.php?id=11555&area=&name=board10&topic=7&action=view
แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัว เพียงแต่เค้ารู้ทฤษฎีที่ถูกต้อง และปฎิบัติเป็น ก็น่าจะให้พื้นฐานที่ถูกได้
ผมเองยังอยากไปเรียนเลย แต่ไม่มีเวลาว่างพอ ลองคุยกันดูครับ อย่างน้อยก็ได้สนับสนุนกันและกันให้พัฒนาขึ้น win win
ให้เขียนเรื่องทฤษฎีอย่างเดียวก็ได้ครับ ง่ายกว่าอัดคลิปอีกด้วย แต่กลัวว่าจะเบื่อเอาง่ายๆ เลยต้องเขียนสลับไปมาครับ
คุณ Jap สอนแบบนี้ดีแล้วครับ เหมือนเรียนภาษาหนักแกรมม่าอย่างเดียว พูดไม่คล่องหรอกครับ
แต่พอดีเข้าใจคุณ Orair ที่ใจร้อนก็เลยแนะนำ เพราะคุณ Jazzy ที่ทำ Blog นั้นก็ทำมานาน น่าจะมีอะไรดีๆ ให้คุณ Orair บ้าง (แต่มาคิดดูไม่รู้เสียมารยาทรึเปล่า เหมือนมาโฆษณาให้เค้ากลายๆ )
แต่คิดดูผมไม่ได้ตังค์กับเค้าด้วยคงไม่เป็นไร งั้นแถมน้องโน้ตอีกคนครับ รับสอน ลองเข้าไปดูใน Link youtube ข้างล่างเลยครับ
http://www.youtube.com/user/noteharmonicaboy
ไม่เป็นไรครับ ถือว่ามีความชอบเหมือนๆกันอยู่แล้ว เพียงแต่ที่เขียนคืออยากบอกเฉยๆว่า ทำคลิปกว่าจะได้แต่ละอันนี่ต้องหลายเทคมากเลยครับ ไม่เหมือนพิมพ์ที่ค่อยๆมาแก้ไขได้เรื่อยๆ
ส่วนน้องโน้ตนี่แนะนำเลยครับ น่ารักกันทั้งครอบครัวเลยครับ แถมออกหนังสือสอน tremolo มาแล้วด้วย (นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ไม่อยากเขียนเกี่ยวกับ tremolo มากนัก)
สอบถามหน่อยครับ ผมซื้อ Key G แบบ 10 ช่อง ของ Suzuki มา รุ่น Blue เวลาดูดช่อง 3 เสียงไม่ออกเลย ต้องดูดแรงมากๆ เสียงถึงออก แต่ก็เบา เลยไปซื้อ Key G แบบ 10 ช่อง ของ Honner มา ก็เป็นอาการเดียวกัน ทำความสะอาดแล้วก็ยังเหมือนเดิม เลยสงสัยว่าเกิดจากอะไรครับ
อีกเรื่องครับ เวาลาเป่านี่น้ำลายจะไปอุดที่ลิ้นกระเดื่องนี่แก้ยังไงดีครับ หรือมีเทคนิคช่วยยังไงบ้าง เวลาเป่าไปสักพัก มันจะดูดแล้วเสียงไม่ออก ต้องเอาออกจากปากมาเคาะเรื่อยๆเลยครับ (เป็นเฉพาะเวลาเป่าแบบใช้ลิ้นอุด)
ถ้ายังไม่ได้ไปปรับแต่งอะไรมาก่อน มาจากร้านยังไงก็แบบเดิมละก็ น่าจะจาก reed gap หรือช่องความห่างของลิ้นของ harmonica จากโรงงานไม่เหมาะกับตัวเองครับ วิธีแก้วิธีแรกคือ ลองปรับตัวเองก่อน ค่อยๆดูดช่องที่มีปัญหา ซึ่งมักจะเป็นช่องที่สองหรือสาม ลองดูดจากเบาเป็นแรง หรือจากแรงแล้วค่อยๆเบา จนจับจังหวะได้ว่าประมาณไหนจะเหมาะกับตัวเอง หรือจะใช้วิธีที่สองคือ ปรับ reed gap ซึ่งยังติดคุณมานะเอาไว้ จะมาแนะนำวิธีอีกครั้งครับ แต่ถ้าเป็นมือใหม่ก็แนะนำให้ปรับตัวเองก่อนปรับเครื่อง เพราะบางครั้งแค่ปรับตัวเล็กน้อยก็เล่นได้แล้วครับ
ส่วนเรื่องน้ำลาย ต้องปรับตัวเหมือนกันครับ อาจจะต้องเคาะบ่อยๆ หรือร่วมกับการปรับการถือ harmonica ให้ด้านที่เป่า-ดูด ต่ำกว่าอีกด้าน น้ำลายจะได้ไม่ไหลเข้าไปข้างในมาก หรือบางคนปรับการใช้ลมก็ช่วยได้มาครับ เพราะบางคนเล่นแบบลิ้นอุด พอเวลาเล่นก็ออกเสียง”ซ”ไปด้วย ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียง อา หรือ ฮา แทนจะดีกว่า
เวลาผมเล่นจะเล่นกับกีต้าร์ จึงต้องใส่กับที่คล้องคอ น้ำลายเลยเข้าไปง่าย เดี่ยวจะลองปรับเปลี่ยนการออกเสียงดูครับ ขอบคุณมากครับ
ยิ่งใช้ที่คล้องก็ต้องปรับตำแหน่งให้ดีด้วยครับ ถ้าให้ดีก็ต้องปรับให้เงยเล็กน้อยอย่างที่บอกครับ
ผมชอบระยะห่างช่องของ Marine band classic มาก แต่อยากได้รุ่นที่ไม่ใช่ ไม้ ช่วยแนะนำตัวที่ใกล้เคียง ยี่ห้ออะไรก็ได้ ร้านจำหน่าย รบกวนด้วยนะครับ
เวลาใช้ไปนานๆ มีสนิมขึ้นบ้างไหมครับ เวลาผมทำความสะอาดจะเจอประจำเลย เห็นแล้วรู้สึกไม่อยากเล่นต่อ มีรุ่นไหนที่สนิมไม่ขึ้นบ้างไหมครับ
รุ่นที่ไม่ใช่ไม้เช่น Hohner special 20, Hohner big river, Hohner 150 yr, Suzuki harp master, Suzuki blues master ซึงก็มีเสียงที่ต่างกันอยู่พอสมควร ถ้าชอบ marine band ก็แนะนำตัว 150 ปีครับ เพราะตัวอื่นของ Hohner จะแคบกว่า ส่วนของ Suzuki ก็ลองเทียบกับที่มีอยู่ก็ได้ครับ ไม่แน่ใจว่าตัวไหนแคบกว่าเหมือนกัน ถ้า Hohner ก็ร้านมีสิน ส่วน Suzuki ก็ธีระมิวสิคครับ
ส่วนเรื่องความสะอาด เป็นเรื่องปกติของเครื่องเป่าอยู่แล้วครับ ต้องดูแลเรื่องความสะอาดของปากก่อนเล่น การทำความสะอาดก่อนเก็บ และการดูแลเป็นระยะ ก็ทำให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น อย่าง marine band classic ที่ใช้อยู่ประจำก็เกินสิบปีแล้วก็ยังไม่มีปัญหานะครับ แต่อาจจะเก่าไปบ้างตามอายุเท่านั้น
สวัสดีครับ คือผมก็เป็นคนที่ไม่เคยเล่นดนตรีอะไรมาก่อนไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับดนตรีเลย แต่พอได้เข้ามาอ่านบล็อกของคุณ Jap แล้วก็ บล็อกของคุณ harmonicafe ก็ติดตามมาสักระยะแล้วละครับ ก็มีความสนใจเครื่องดนตรีชิ้นนี้นะครับ เลยอยากรบกวนถามว่า ผมต้องการจะเริ่มหรือหัดเ่ล่นนะครับ ผมควรจะเริ่มยัง ควรเริ่มจากตัวไหนดี เคยลองฟังเสียงจากคลิปที่ลงไว้ข้างบน ก็รู้สึกชอบทั้ง 3 ตัวเลยครับ >< แล้วราคามันประมาณเท่าไหร่หรอครับ ผมก็ไม่ค่อยมีงบเท่าไหร่ด้วยอะครับ อยากลองสอบถามดูครับ
ก็ขอรบกวนหน่อยนะครับ
แล้วก็ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะครับ
ยินดีต้อนรับนะครับ ถ้าอยากหัดเล่น ขอแนะนำให้เริ่มจาก tremolo หรือ diatonic ก่อนจะดีกว่าครับ เพราะราคาเริ่มต้นไม่แพงมาก ส่วนมากจะเป็นหลักร้อย หรือถ้าอยากลองเฉยๆแค่ร้อยสองร้อยก็มีครับ (แต่ถ้าเอาแบบเล่นง่ายกว่า เสียงดีกว่า ก็อาจจะต้องเจ็ดแปดร้อยจะดีกว่าครับ) chromatic จะดูแลยากกว่า แพงกว่า (พันสองพันขึ้นไป) และควรมีความรู้ทางดนตรีบ้างจะดีกว่า แต่ระยะยาวก็ตัวเดียวคุ้ม
ส่วนถ้าเทียบกับ tremolo จะเริ่มต้นง่ายกว่า แต่บางเทคนิคจะยากกว่า แถมบ้านเรามีคีย์ให้เลือกน้อยกว่า และต้องยาว 20 ช่องขึ้นไป เสียงถึงจะเท่ากับ diatonic 10 ช่อง แต่ถ้าแค่เล่นคนเดียวก็ไม่เป็นไรครับ
ก็คือว่า tremolo เริ่มต้นง่ายกว่า ไอเทคนิคที่ว่ามันคืออะไรหรอครับ
แล้วถ้าฝึกเล่นทั้งสองแบบได้ไหมครับ (ดูโลภยังไงไม่รู้นะครับแต่ถามดูนะครับ) หรือควรจะเริ่มต้นที่ละแบบ ส่วนราคา ร้อยสองร้อย คุณภาพจะเป็นยังไงหรอครับ ขอบคุณคร้าบบบ
อย่างพวก bending ครับ แต่ก็ไม่ได้ยากกว่ากันมาก
การเริ่มจะเริ่มพร้อมกันก็ได้ครับ แต่ถ้าเป็นแบบหนึ่งแล้ว อีกแบบจะง่ายมากเลยเพราะพื้นฐานเดียวกัน ส่วนอันละร้อยสองร้อยก็สมราคาครับ พอหัดเล่นได้ เสียงบางไปหน่อย แล้วก็กินลมมากกว่า หัดใหม่ๆอาจท้อกันบ้าง
แล้วอย่างงี้ เริ่มต้น ผมจะต้องซื้อของจีนหรือว่าเป็นพวก Suzuki หรอครับ แล้วที่บอกว่าถ้าแค่เล่นคนเดียวก็ไม่เป็นไร หมายถึงยังไงหรอครับ ขอโทษทีนะครับ รบกวนเยอะเลย T^T
ที่บอกว่าเล่นคนเดียวก็หมายความว่า ถ้าไม่ได้เล่นรวมวง หรือไม่ได้เล่นตามเพลงก็ไม่เป็นไรครับ เล่นเพลงส่วนใหญ่ได้ แต่ถ้าเล่นพร้อมกับคนอื่นก็ต้องเล่นให้ตรงกับคนอื่น เหมือนคนร้องเพลง ร้องเองคนเดียวอาจจะเพราะ แต่พอร้องคาราโอเกะแล้วร้องผิดคีย์ ไม่ตรงกับเพลง
ส่วนการซื้อ ถ้าอยากลองดูก่อน ก็เลือกของจีนก็พอไหวถ้ารับข้อเสียของมันได้ แต่ถ้าคิดว่าไม่อยากซื้อใหม่อีก หรืออยากเริ่มได้ง่ายกว่า ก็น่าจะเพิ่มงบครับ ตอนนี้กำลังเร่งเขียนหน้าที่แนะนำรุ่นของ harmonica อยู่ครับ แต่ยังได้แค่ครึ่งเดียวเอง
อ่อ ครับ ขอบคุณมากนะครับ เด๋ววันไหนว่างแล้วจะไปซื้อ tremolo มาลองเล่นก่อน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากเลยครับ เป็นกำลังใจให้ครับบ
ลองแบบไหนก่อนก็ไม่ต่างกันมากครับ ถ้าเริ่มถูกก็ต่อยอดได้ง่าย
เอิ่ม ขอรบกวนอีกนิดนะครับ แล้ว tremolo เขาเล่นกันกี่ช่องหรอครับปกติอะครับ
ถ้าจะให้แนะนำก็ตั้งแต่ 20 ช่องขึ้นไปครับ (เช่น 20, 21, 24 ช่อง) จะได้ช่วงเสียงกว้างกว่า 16 ช่อง ทำให้เล่นได้หลากหลายกว่า แต่ไม่ต้องถึงกับ 30 ช่องก็ได้ครับ เพราะเสียงที่ได้เพิ่มมาคงไม่ได้ใช้เท่าไหร่
คือถ้าอยากเริ่มให้ได้ง่ายนี่คือราคา 7 8 ร้อยเลยหรอครับ
ถ้าเป็น diatonic ก็ใช่ครับ ลองอ่านหัวข้อรุ่นของ harmonica ก็ได้ครับ วันนี้ล่าสุดก็จบของ Hohner, Suzuki, Golden cup ไปแล้ว ก็คงเหลือแค่ Tombo ครับ ที่เหลือไม่สามารถ
ส่วนถ้า tremolo ก็ใกล้เคียงกัน แต่บ้านเราไม่มีให้เลือกเยอะ แล้วคนที่เล่น tremolo ก็อาจจะต่อมาเล่น diatonic เพราะเสียงมันได้อารมณ์กว่า เลยอาจจะลองของจากจีนก่อนก็ได้ครับ แต่ควรเลือกที่มันเรียบหน่อยนะครับ เพราะบางตัวก็ไม่เรียบอาจบาดปากได้ ส่วนเรื่องการกินลมก็ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ครับ เพราะ tremolo ใช้ลมไม่มากอยู่แล้ว รั่วไปบ้างก็ถือว่าเป็นการฝึกความแข็งแรงของปอด เตรียมไว้สำหรับ tremolo ก็ได้ครับ
ขอบคุณมากๆๆเลยครับ รบกวนซะเยอะเลยนะครับ ><
ไม่เป็นไรครับ มีปํญหาอะไรก็ถามกันอีกได้ครับ
แหะๆ ยังไม่ทันไรก็มีปัญหามาถามอีกแล้วนะครับ คืออยากรู้ว่า ฮาโมนิก้าของ made in china มีขายที่ไหนบ้างหรอครับ หรือร้านขายเครื่องดนตรีทั่วไปก็มี แล้วเวลาเลือกซื้อต้องดูอะไรบ้างหรอครับ แล้วราคาประมาณเท่าไหร่หรอครับ ขอบคุณมากครับ ><
เห็นตามร้านเครื่องดนตรีทั่วไปก็มีนะครับ วิธีเลือกก็ให้เลือกเอาด้านที่ใช้เล่นให้มันเรียบๆหน่อยครับ จะได้ไม่บาดปาก จำนวนช่องก็อย่างที่เคยบอกครับ ประมาณ 20 ช่องขึ้นไปน่าจะเล่นได้หลากหลายกว่า ซึ่งบ้านเราน่าจะหา 24 ช่องได้ง่ายสุดครับ
ราคาอยู่ประมาณในช่้วง ร้อย – สองร้อยใช่ไหมครับ
ถ้าของจีนก็น่าจะประมาณนี้นะครับ ไม่ได้เช็คราคามานานเหมือนกันเพราะไม่ค่อยได้เล่น แต่ถ้าของ Hohner หรือ Suzuki ก็น่าจะหลายร้อยครับ
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำแนะนำของคุณ harmonicafe
ตอนนี้ดิชั้นได้ลงเรียนกับคุณ jazzy เรียบร้อยแล้ว ก็จะเริ่มก็วันพรุ่งนี้เลย
แล้วจะเข้ามาติดตามเรื่อยๆ นะคะ 🙂
ก้าวหน้าอย่างไร อย่าลิมมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังบ้างน่ะครับ
ขอให้สนุก และพบประสบการณ์ดีๆ ครับ
ขอบคุณที่ช่วยให้ความเห็นดีๆนะครับ ที่จริงอยากเข้าไปช่วยเขียนด้วยแต่ยังเอาตัวเองไม่ค่อยรอดเลย แถมบางเพลงต้องบอกว่าไม่รู้จักเลยครับ
ดีใจด้วยคนครับ ขอให้สนุกกับการเล่น มีอะไรก็ถามกันเพิ่มได้ครับ
อยาได้โน้ตสำหรับคนเพิ่งหัดเล่น
น่าสนใจดีครับ จะลองหาเพลงง่ายๆดู แต่ถ้าแนะนำบ้างก็ดีนะครับ ไม่งั้นเลือกเพลงมาแล้วก็ไม่รู้จัก
– ดีใจกับคุณ Orair ที่มีที่เรียนแล้ว สำหรับผมก็อย่างที่คุณ Harmonicafe บอก เท่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ก็ทำงานให้หลวงไม่ค่อยจะคุ้มอยู่แล้ว อีกประการความรู้ทาง Harmonica ของผมก็เพียงพอรู้ ยังไม่เก่ง ต้องอาศัยคุณ Japharmonica กับ คุณ Harmonicafe บ่อยๆ แต่ก็อยากมีส่วนร่วมกัน เพื่อน Harmonica บ้าง เพื่อไม่ให้เงียบเหงาเกินไป
ขอบคุณสำหรับความเห็นดีๆเหมือนกันครับ ถ้าอย่างคุณมานะยังทำงานไม่คุ้มหลวง ของผมก็ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงเหมือนกัน ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็ยังจะเอาเงินเดือนเขามาอีก
สวัสดีครับ ผมเพิ่งหัดเล่น Harmonica ครับ มีคำถามอยากถามคือว่า
ผมมี Suzuki Harpmaster Key C อยู่ตัวนึง แต่ผมอยากเล่น Key อื่นด้วย ผมอยากเล่นเพลง
Blues ควรใช้ Key ไหนครับ ใช่ E กับ A หรือเปล่าครับ แล้วรุ่น Harpmaster ต่างกับ
Promaster มากไหมครับ เพราะราคา ต่างกัน 2-3 เท่าเลย แต่ดูแล้วก็สวยมากเลยครับ
ขอบคุณมากครับ
ยินดีต้อนรับครับ
เรื่องการเลือกคีย์ เคยเขียนไว้แล้วครับ ลองอ่านดูก่อนก็ได้ครับ แต่ง่ายๆก็คือ เราเลือกคีย์ตามเพลงที่เล่น ซึ่งพวกบลูส์มักจะเล่นกันในคีย์ G, D, A, E ซึ่งจะเล่น harmonica คีย์ C, G, D, A ตามลำดับครับ เพราะพวกบลูส์จะใช้ harmonica ไม่ตรงกับคีย์ที่เล่น ซึ่งจะเรียกว่า cross harp ครับ
ส่วน pro master ต่างจาก harp master ตรงที่ตัวจะเป็นโลหะแทนที่จะเป็นพลาสติก น้ำเสียงจึงออกใสกว่า ซึ่งบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ
ขอบคุณมากครับ คุณjap ตอบไวดีจัง งั้นอย่างนี้ผมต้องไปดูที่ร้านเขาอีกทีซะแล้ว
(รบกวนอีกนิดครับ ระหว่าง2รุ่นนี้ อันไหนBendง่ายกว่ากันครับ)
ทั้งสองรุ่นนี้ถือว่า bend ค่อนข้างง่ายอยู่แล้วครับ แต่เนื่องจาก promaster เป็นโลหะ ลมรั่วจึงน้อยกว่า การ bend จึงใช้ลมน้อยกว่าครับ ซึ่งทำให้บางคนบอกว่าง่ายกว่า แต่บางคนที่ชอบใช้ลมเยอะก็จะบอกว่ายากกว่าครับ
– เรียนคุณ K ในฐานะที่ผมเพิ่งหัดเล่น Harp มาประมาณ ๖ เดือน ผมอยากแนะนำให้เล่นเพลงแบบธรรมดาก่อน อย่างเพิ่งกระโดดไปเล่น Blues ที่ต้องเล่นแบบ Cross Harp เพราะหากยัง Bend เสียงได้ไม่ครบทุกเสียง จะเล่นไม่ได้ เล่นแบบธรรมดาให้ได้ แล้วฝึก Bend ให้คล่อง แล้วค่อยเล่น Cross Harp การเล่นเพลง Blues เหมือนเป็นเป้าหมายที่นักเล่น Harp ส่วนมากอยากเล่น แต่ต้องค่อยๆฝึกไปตามที่คุณ Jap แนะนำนี่แหละ ตอนนี้ผมก็กำลังหัดเล่น Cross Harp ที่ 2nd positionอยู่ ก็ยังทำไม่ได้ครบสักเพลง เพราะ Note บางตัว ก็ยัง Bend ไม่ได้ ผมก็เลี่ยงมาเล่น Cross Harp ที่ตำแหน่ง 3rd position แทน เพราะไม่ต้อง Bend มาก คุณ K อาจจะสงสัยว่า 2nd position คืออะไร 2nd position คือการเริ่มเล่นเพลงโดยการดูดที่ช่อง ๒ ส่วน 3rd position ก็เริ่มเพลงโดยการดูดที่ช่อง ๔ แล้วทำไมต้องเล่นอย่างนี้ ที่เล่นอย่างนี้ก็เพื่อจะให้เล่น note ที่ต้องดูดเป็นส่วนใหญ่ การเล่น Harp โดยการดูด จะทำให้ได้เสียงพริ้วกว่าการเป่า อีกประการการเล่นที่ 2nd position จะทำให้ไม่ต้องเคลื่อนไหวหลายช่อง เพราะ note จะอยู่ช่อง ๒ , ๓ มาก ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆ ฝึกฝนไป Harp เล่นไม่ยาก
ยินดีด้วยครับที่พัฒนาได้รวดเร็วมาก ไปถึง 2nd posion (cross harp) และ 3rd position (double cross harp) ไปแล้ว ไปไกลกว่าที่ผมเขียนเอาไว้ตอนนี้ซะอีก ต้องรีบตามให้ทันบ้างแล้ว
ส่วนเรื่องการปรับแต่ง กำลงจะเริ่มนะครับ (ไม่รู้ว่ามาเร็วเกินหรือเปล่า เพราะยังมีเทคนิคอีกหลายอย่างยังไม่ได้พูดถึงเลย)
ขอบคุณทุกๆท่านสำหรับคำแนะนำครับ งั้นผมคงต้องฝึกไปเรื่อยๆก่อนตามคำแนะนำครับ ช่วงนี้ปิดเทอมอยู่คงมีเวลาซ้อมมากมายเลย
ฝึก bending ได้ชำนาญแล้วบลูส์ก็เป็นเรื่องง่ายๆเลยครับ
เข้ามาอ่านความเห็นของเพื่อนสมาชิก มาสดุดที่คุณ V เห็นว่ากำลังจะหัดเล่น Tremolo แล้วกำลังจะไปซื้อ…เลยอยากแนะนำให้หาหนังสือคู่มือ Harmonica ของ อ.นพดล ติดมือกลับบ้านด้วย จะทุ่นเวลาในการหัด และสะดวกในการฝึกขึ้นมากเลยครับ
ส่วน Tremolo นั้นถ้าเอาถูกก็หลังกระทรวง (ย้อนดู Comment บนสุดผมเคยถามคุณ Jap ไว้) ซึ่งน่าจะมีหนังสือวางอยู่หลายร้าน
แต่ถ้าเอาสะดวกก็ตามห้างได้เลยครับ แผนกเครื่องดนตรีน่าจะมีทุกห้าง ซึ่งยิ่งหาหนังสือด้วยง่ายไปใหญ่เพราะเดินเข้าร้านหนังสือในห้างได้เลย มีทุกร้าน
แต่ใจผมอยากให้ซื้อหนังสือมาอ่านดูก่อนครับ จะได้เกิดภาพความต้องการขึ้นในใจทำให้หยิบจับเลือกซื้อ Harmonica ได้ด้วยความมั่นใจในตัวเองขึ้น
ขอบคุณมากครับ คือถ้าเป็นหลังกระทรวงจะถูกกว่าหรอครับ
ถูกกว่าแน่นอนครับ ทั้งหลังกระทรวง ทั้งเวิ้ง ถูกกว่าในห้างแน่ ค่อยๆเดินหลายๆร้านก็ได้รับ ดีไม่ดีอาจจะได้รุ่นอื่นของ Suzuki ไปแทนก็ได้ครับ แต่แนะนำว่า ถ้าหลังกระทรวงต้องทำใจกับคำพูดคำจาเล็กน้อยนะครับ
แล้ว เวิ้งกับหลังกระทรวงราคา จะใกล้เคียงกันไหมครับ harmonica รุ่น Easy rider ของ suzuki มันราคาประมาณเท่าไหร่หรอครับ
ราคาใกล้เคียงกันครับ ส่วนถ้าเป็น easy rider น่าจะประมาณสามร้อยนะครับ
ขอบคุณครับผม
สงสัยท่าทางจะเปลี่ยนมาเล่น diatonic แน่เลย
ถ้ามีโอกาสได้เช็คราคา ฝากรบกวนมาโพสบอกต่อเพื่อนๆด้วยนะครับ เพราะผมคงไม่สามารถไปเช็คเองได้
ก็สนใจเหมือนครับผม ถ้าได้เช็คจะเอามาฝากนะงับ
ขอบคุณครับ จะได้เป็นประโยชน์กับผู้สนใจท่านอื่นๆด้วย
ขอบคุณที่ช่วยแนะนำครับ หนังสือ tremolo harmonica ของไทยไมม่ได้หากันง่ายๆเหมือนเครื่องดนตรีอื่นครับ ถ้าเจอก็เก็บไว้เถอะครับ แนะนำเลย โดยเฉพาะของน้องโน้ตกับ อ. นพดลด้วย
– ถ้าจะซื้อผม แนะนำให้ซื้อ Suzuki Harp Master หรือ Suzuki Folk Master ราคาใกล้เคียงกับ Easy Rider โดยเฉพาะ Harp Master ที่ทางร้าน ธีระมิวสิค ขายในราคาถูกมาก แต่ไม่ทราบ Key C มีหรือยัง
– ไม่เร็วไปหรอกครับสำหรับการปรับ Reed เพราะ Harp ซื้อมา ผมว่าต้องปรับ Reed เมื่อคืนผมใช้ Harp Master key G ปรากฏว่า มีปัญหาตื้อๆ ที่ ช่อง ๓ เดี๋ยวจะต้องปรับแต่งแบบมั่วๆ ไปก่อน
ขอบคุณครับ กำลังทำคลิปอยู่ครับ แต่ยังรู้สึกไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ รออีกนิดนะครับ
– ต่อสู้(แบบมั่วๆ)กับ Reed Harp Master key G ช่อง ๓ มา ๔ วัน เพิ่งจะประสบความสำเร็จเมื่อเช้า แต่ก็สำเร็จแค่ 80% พอเล่นได้ แต่ก็ยังตื้อๆอยู่ เสียง note ยังไม่ชัดเจนเท่าช่องอื่นๆ
– ลองเอา Pro Master key G มาเล่นก็คล้ายกัน แต่น้อยกว่า ยังไม่กล้าปรับ คอยดู clip ของคุณ Jap ก่อน ลองดูใน YouTube คนแนะนำ ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เลยฟังไม่รู้เรื่อง
กำลังเร่งอยู่ครับ รออีกไม่นาน
ผมก็เป็นปัญหาเดียวกันครับ ช่อง 3 ของคีย์ G เวลาดูด เสียงจะเพี้ยน เสียงออกบ้างไม่ออกบ้าง ซื้อมา 3 ตัว เป็นเหมือนกันหมด ทั้งรุ่น Blue master , Big River , Manji ได้ลองดูคลิปใน Youtube ในการปรับ เห็นเขาใช้กระดาษในการสอดเข้าไป แต่ก็ยัง งง อยู่ว่าจะตั้งยังไง ลองมั่วๆทำดู เจ๊งไปอันนึงแล้ว เสียดายตังค์ ยังไงถ้าแก้ไขได้ช่วยบอกกันด้วยนะครับ
กำลังปรับปรุงคลิปอยู่ครับ อีกเดี๋ยวเดียว
มาแชร์ให้ฟังค้าาาา จากที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ Harmonica และโน๊ตเพลง ไปเรียนมาแค่วันเดียว เป่าได้ 2 เพลงละค่ะ เพลงจิงเกิ้ลเบลและเพลงหนูมาลี 555
ขอบคุณครับที่มาเล่าสู่กันฟัง ไว้จะหาเพลงง่ายๆเสริมให้ครับ
– ยินดีกับคุณ Orair ผมว่าดนตรีอยู่ที่การฝึกฝน ต้องฝึกทุกวัน อย่างที่ท่านสุนทรภู่ว่าไว้ “หนึ่งวันว่างเว้นดนตรี เจ็ดวันจากนารีเป็นอื่น” คุณ Orair น่าจะก้าวหน้าได้รวดเร็ว เพราะมีครูสอน
เห็นด้วยเลยครับ ยิ่งช่วงนี้ไม่ค่อยได้เล่น ไปไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน ต้องมาเริ่มใหม่อีกแล้ว
สวัสดีครับพี่ jap และเพื่อนๆชาวฮาร์โมนิก้าทุกคนครับ ได้เจอสังคมฮาร์โมนิก้าแล้วดีใจมากครับ หลังจากที่เว็บบอร์ดฮาร์โมฯของลุงน้ำชาปิดตัวลงก็แทบไม่ได้เจอเพื่อนๆชาวฮาร์โมฯเลยครับ
ยินดีมากๆเลยได้มาเจอสังคมฮาร์โมนิก้าที่อบอุ่นอีกครั้ง ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่ๆ ^_^
ขอฝากตัวด้วยคนครับ ดีใจที่มาจากที่เดียวกันด้วย ตอนนั้นคงได้ทันอ่านที่ผมเขียนไว้บ้าง (จำไม่ได้เหมือนกันว่าเขียนอะไรไปบ้าง)
ที่บล็อกของคุณ harmonicafe ก็ครึกครื้นนะครับ ลองแวะเข้าไปดูก็ได้ครับ มีลิงค์อยู่ด้านข้าง
ตอนนี้อยากได้โน๊ตเพลง happy birthday ค่ะ จะไปเล่นให้เพื่อนวันเกิด
รบกวนพี่ๆ หน่อย ใครมีบ้าง อิอิ
ดีเลยครับ เดี๋ยวจะลงให้ครับ
สวัสดีครับผม วันก่อนนู้นไปซื้อ Diatonic มาครับ แล้วมาอ่านเรื่อง Bend ก็ค่อนข้าง งงนะครับ ลองทำแล้วไม่รู้ว่ามันถูกไหม แล้วยิ่งช่องที่ Bend ได้ 2 เสียง ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลยครับ แล้วก็อยากรู้วิธีการดูแลรักษาอะครับว่าต้องยังไงหรอครับ ล้างทุกครั้งหลังใช้หรือยังไงหรอครับ ขอบคุณมากครับ
เรื่อง bend นี่ต้องเล่นโน้ตเสียงเดียวให้เก่งก่อนนะครับ ลองฟังเสียงในคลิปประกอบดูก่อนก็ได้ครับถ้ายังงง
ส่วนการดูแล จะเขียนเพิ่มเติมอีกที ง่ายๆก็คือระวังเรื่องความะอาดของปากก่อนเล่น ไม่กินก่อนเล่น หรือถ้าให้ดีก็อาจจะบ้วนปากหรือแปรงฟันก่อนก็น่าจะดี หลังเล่นก็ควรจะเคาะเอาน้ำลายออกมาด้วย และควรจะเช็ดก่อนเก็บ ส่วนการดูแลระยะยาว ก็อาจจะต้องแกะมาทำความสะอาดบ้างเป็นครั้งคราว
– เรียนคุณ Jap เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระคุณ Jap ผมวางแผนว่าจะทำคำแนะนำวิธีการถอด Harmonica ออกล้าง Reed ทำความสะอาด Comb คิดว่าวันอาทิตย์นี้น่าจะทำสำเร็จ แต่คงจะลง
ใน Harmonicafe blog หากทำเสร็จ จะแจ้งให้สมาชิกทราบ
– เรียนคุณ V ผมก็เคยงงเหมือนคุณ V มาก่อน กว่าจะหายงงก็เป็นเดือน ค่อยๆ ฝึกไปตามที่คุณJap แนะนำเดี๋ยวหายงงเอง เริ่มจากการคาบ Harmonica ให้ถูกต้อง ผมเองเลือกคาบแบบ คาบให้ลึก แต่สามารถเป่าเป็น Single note ได้ ที่เขาเรียกว่า lip block แล้วเป่าทุกช่องให้ออกมาเป็นเสียงเดี่ยว ทั้ง ดูด และ เป่า แล้วค่อยฝึก bend
ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ
– สอบถามคุณ Jap คำว่าเริ่มต้นเพลงนี้ นับตั้งแต่เริ่มต้น Intro หรือเริ่มต้น ท่อนเนื่อเพลง ที่เราเอามาบอกว่าเพลงเป็น key ไหน
– Harp key C ถ้าเราเริ่มเพลงโดยเริ่ม note ตัวแรก โดยการเป่าที่ช่อง ๔ แสดงว่าเพลงนั้น key C แต่ถ้าเริ่มโดยการเป่าที่ช่อง ๕ ก็จะเป็น key E ใช่หรือไม่ อันนี้เกิดจากผมเล่นเพลง เสน่ห์สาวเวียงพิงค์ ของสุรพล สมบัติเจริญ เล่นไปเล่นมารู้สึกว่าหลง key ประจำ ก็มาสังเกตุว่า เพลงสามารถเริ่มที่ เป่า ช่อง ๔ หรือ เป่า ช่อง ๕ ก็เล่นเพลงได้เหมือนกัน แต่ต่าง key กัน เดี๋ยวนี้จึงระวังตรงนี้มาก (ผมเล่นแบบ By heart)
เรื่องการหาคีย์เพลง จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก จะลองหาคำอธิบายมาลองเล่าให้ฟังครับ
– ผมขอตัดคำถาม วรรคท้ายออก ผมลงใหม่แล้วผมหลงไปเอง
ลืมบอกไปว่า การปรับ reed gap ออกแล้วนะครับ แต่อาจจะยังมีข้อสงสัยบ้าง ติชมได้ครับ
– ขอแจ้งเพื่อนสมาชิก ผมทำคำแนะนำการทำความสะอาด ส่งให้คุณ Harmonicafe ลงใน Harmonicafe blog แล้ว หากมีข้อ Comment ก็ช่วยส่งมาให้ทราบด้วย
ขอบคุณมากๆเลยครับ
ขอถามหน่อยครับถ้าจะเล่นHarmonicaกับวงดนตรีนี่ใช้แบบcromatic มันจะสะดวกกว่ามั้ยอ่ะครับ
เพราะถ้าเป็นแบบอื่นคงต้องไปซื้อคีย์อื่นด้วยใช่มั้ยอ่ะครับ
ช่วยแนะนำcromatic ที่คุณภาพคุ้มราคาหน่อยนะครับ ^^
เลือกจากเสียงดีกว่าครับ เพราะน้ำเสียงจะแตกต่างกันพอสมควร
แต่ถ้าจะเอาแบบทีเดียวเอาอยู่ ก็ต้อง chromatic แต่ก็ต้องใช้เวลาหัดกันมากกว่า ถ้าอยากจะเล่นได้หลายคีย์
ถ้าจะให้แนะนำ ของจากจีนนี่ถึงถูกแต่ก็กินลมมาก แถมเสียงก็บาง ลิ้นหักง่าย บางตัวมีบาดปากด้วย แต่ถ้าจะเอามาลองก็ได้ครับ ประมาณพันต้นๆ (แต่ไม่อยากแนะนำ เพราะจะเสียอารมณ์มาก)
ถัดมาก็ต้องเป็น Hohner chrometta ที่คุณภาพใช้ได้เลย ราคาไม่แพง (น่าจะประมาณสองสามพัน) ดูแลง่าย เสียงก็โอเคไม่น่าเกลียด
ถ้าจะเอาดีขึ้นมาก็ Hohner super chromonica เสียงดีเลย หรือไม่ก็ Suzuki chromatix (น่าจะประมาณสี่ห้าพัน)
หรือจะเอาแบบเท่ ดูแลง่าย ก็ต้อง Hohner CX12 แต่ก็ยิ่งแพงขึ้นไปอีก
ต้องถามว่า จะใช้เล่นทุกคีย์เลยหรือเปล่า เพราะถ้าเล่นแค่ไม่กี่เพลงหรือไม่กี่คีย์ ซื้อ diatonic มา 3 ตัว ยังถูกกว่า แถมเล่นง่ายกว่าด้วย
ต้องขอถามคุณ Ake เพิ่มเติมนิดนึงว่า เล่นกับวงดนตรีนี่ เล่นแบบวงของเราได้ฝึกซ้อมร่วมกันมา หรืออยู่ดีๆ เข้าไปแจมกับเค้าครับ
แบบแรกก็ได้ทั้ง 2 ชนิดแล้วแต่ความชอบ เพียงแต่ Chromatic ต้องฝึกหัดไล่สเกลแบบเครื่องดนตรีทั่วไป เจอเพลงที่มีโน้ตนอก Key มาก็ไม่ลำบากนัก แย่กว่านิดหน่อยตรงเครื่องดนตรีอื่นเวลาเจอ # หรือ b มันมีตำแหน่งนิ้วที่แน่นอนในการกด แต่ Chromatic Harmonica นี่ต้องกดปุ่มค้างไว้ตลอด (เมื่อยครับ)
ถ้าเป็นอย่างหลังนี่ Diatonic สะดวกกว่าครับ เพราะมักเล่นแบบ Improviseหยอด Lick ที่เราฝึกมาได้ตลอดทุก Key ทุกขณะเพลง แต่อย่างไรก็ต้องฝีกฝนในการเลือกเปลี่ยน Key ให้ถูกต้อง ส่วนวิธีเล่นแบบเดิมตลอด มันสะดวกและลดเวลาในการฝึกฝนตำแหน่งปาก (หรือนิ้ว ในเครื่องดนตรีอื่น) เราจึงมักพบเสมอเวลาไปนั่งฟังเพลงแล้วเจอฝรั่งขอแจมบนเวที ควักอะไรออกมาก้อนนึง พอคลี่ออก เป็น Diatonic Harp เรียงเป็นพรืด พวกนี้มีประโยคเด็ดประจำตัว (Lick) คล่องแล้วคล่องเลยโชว์ได้ตลอด แต่เราจะไม่ค่อยเจอ ฝรั่งควักท่อนใหญ่ๆ ออกมาโชว์ (ผมหมายถึง Chromatic Harp น่ะ) เพราะเจอช่วง key ที่ไม่คล่องเข้าต้องขอผ่าน หรือซ้อมมาไม่ดีแล้วเสี่ยงเล่นนี้…มีหลุด…มันทำให้เกิดอาการไม่มันส์ในการแจมครับ
chromatic ก็ improvise สนุกเหมือนกันนะครับ
อื้มได้ข้อแนะนำเพียบเลย นั่นสิครับถ้าซื้อDiatonicหลายๆคีย์ก็ราคาพอๆกับctomaticตัวนึงเลย มีร้านไหนที่เค้าขายกันเป็นแพ็คเลยมั้ยอ่ะครับ ผมเห็นของคุณJapharmonicaในคลิบมีเป็นกระเป๋าเลย ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ^^
ยังไม่เคยเห็นวางขายเหมือนกันครับ ที่สั่งมาก็ประมาณพันกว่าบาท แต่อย่าพูดถึงคุณภาพเลยครับ golden cup ยังดีกว่าเลย
– ผมสนับสนุนความเห็นของคุณ Jap ผมว่า Chromatic จะเหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานทางดนตรี เพราะต้องทราบว่า เมื่อเปลี่ยน key ไป note ตัวเดิมจะเปลี่ยนไปเป็นตัวไหน ผมว่าคุณ Ake เล่น Diatonic ดีกว่า อยากเปลี่ยน key เพลงก็เพียงแต่เปลี่ยนตัว Harmonica แล้วก็เล่นเหมือนเดิม สำหรับราคา ผมว่าตอนนี้ Suzuki Harp Master ที่ร้าน ธีระมิวสิค ราคาถูกมาก ผมว่าคุณ Ake ซื้อทุก Key ที่ร้านธีระมิวสิคมีอยู่ (เข้าใจว่าน่าจะมี key G , A , Bb , C(ไม่แน่ใจว่า lot ใหม่เข้ามาหรือยัง) , D , E และ F) ราคารวมกันทุกตัวน่าจะพอๆกับ Chromatic ๑ ตัว ตอนนี้ผมรวบรวม Harp Master ได้เกือบครบทุก key ด้วยความช่วยเหลือจากคุณ Jap ยังขาด key C(มี Crossover , Pro Master และ Golden Melody อยู่แล้ว) , F# , High G และ Low F กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะรบกวนคุณ Jap อีกครั้งหรือไม่ ว่าจะลองเล่นไปสักพักก่อน ดูว่าจำเป็นต้องใช้หรือไม่ กลัวว่าซื้อมาจะไม่ค่อยได้เล่น แต่ที่อยากได้มากตอนนี้คือ Low F ตอนนี้เล่น key G , Ab , A และ Bb บ่อยๆ ชักชอบ Harp เสียงต่ำ
– สำหรับ Harp Maser เท่าที่ใช้อยู่ชอบมาก เสียงดีราคาถูก พังก็ไม่เสียดาย Crossover ๑ ตัว ซื้อ Harp Master ได้ ๓ ตัว แถมมีเงินทอน ผมว่า Harp Master เหมือนกับ Hohner special 20
– Suzuki Folk Master ที่ขายรวมเป็นชุดครบ ๑๒ คีย์ ราคาเพียง $179 เสียดายที่ร้านธีระมิวสิคไม่นำเข้ามา ถ้ามีคนที่สามารถฝากซื้อได้ผมว่าน่าสนใจ คุณภาพ ไม่ด้อยกว่า Harp Master เท่าไร
ฟังแล้วอยากเก็บ harp master ครบเซ็ตบ้างเลย
ขอถามเรื่องของการหัด Single Note ค่ะ (Tongue Blocking)
ตอนนี้พอจะเป่าได้ตั้งแต่ช่อง 3-10 ค่ะ แต่ปัญหาอยู่ที่ช่อง 1-2 นี่ใช้วิธีไหนเป่าคะ ให้เลื่อนลิ้นไปทางขวาเพื่อเปิดช่องลมทางซ้ายแทน(ซึ่งทำยังไม่ได้) หรือว่าเค้าใช้วิธีเลื่อน harmonica ไปจนสุดด้านซ้ายโดยที่ไม่เปลี่ยนทิศของการ block เสียงคะ
ได้ทั้งคู่เลยครับ ถ้าจะเอาลิ้นอุดทางซ้ายก็ให้อุดเลื่อนมาแถวๆ comb เลยครับ หรือไม่ก็สลับกับ lip block ก็ได้ แล้วแต่ชอบ
ผมใช้วิธีเดียวกันนี้ เหมือนคุณ Jap ครับ คือเอาลิ้นอุดทางซ้ายโดยเลื่อนมาแถวๆ comb ซึ่งถนัดกับการเล่นเพลงที่เร็วต่อเนื่อง เพราะถ้าสลับลิ้นจะผิดพลาดได้ง่าย
แต่ถ้ามีการ Bend เสียงด้วยก็จะใช้ Lip Block บ้างตามความเหมาะสม (ขึ้นอยู่กับจังหวะของเพลงในขณะนั้น เพราะฉะนั้นผมใช้ทั้งสองอย่างในตำแหน่งนี้ครับ)
กำลังหัด tongue block อยู่ครับ แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยถนัดเลย
ผมว่าเป็นธรรมชาติเหมือนคนถนัดซ้าย ถนัดขวาแหละครับ เพราะผมเองก็ถนัด Tongue Block มากกว่า Lip Block ที่บอกว่าใช้ทั้งสองอย่างก็เพราะถูกบังคับโดยตำแหน่งของช่องเป่า เนื่องจาก Harp บางรุ่นเหลือพื้นที่ด้านซ้ายน้อยมากจนไม่มีที่วางลิ้นจึงจำเป็นต้องใช้ Lip Block
แต่ในกรณีทั่วไปผมไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ Lip Block ได้เลย ถ้าเปลี่ยนก็จะ Bend เสียงไม่ได้ พยายามหลายครั้งแล้วก็เผลอกลับมา Tongue Block ทุกครั้ง ยกเว้นที่ตำแหน่งซ้ายสุดที่เดียวพอเลื่อนปากไปแล้วไม่มีที่วางลิ้นสมองมันสั่งอัตโนมัติให้ริมฝีปากหดเข้ามาบังคับลมแทน
ที่อยากหัด tongue block เพราะบางเทคนิคใช้ lip block ไม่ได้หรือไม่ก็ยากครับ
– ต้องเลื่อน Harp ไปให้สุดทางซ้ายโดยไม่เปลี่ยนทิศทางของ block ตอนที่ผมหัดแบบ Tongue block ผมก็มีปัญหาเหมือนกัน พยายามเปลี่ยนลิ้นไป block ทางขวาเสียงก็ไม่ออก เพราะช่อง เป่าไม่ตรง สุดท้ายผมเลยเปลี่ยน มาใช้แบบ Lip block คือ คาบ Harp ให้เต็มริมฝีปาก(ลึกพอประมาณ) บีบริมฝีปากให้แน่นเล็กน้อยเพื่อปรับให้เสียงเป็น Single note ไม่ต้องใช้ลิ้น block จะเป่าง่ายกว่า การเป่าช่อง๑ ช่อง ๒ เป่าได้สะดวก การ bend ก็ง่ายกว่า ผมว่าฝึกแบบนี้จนเล่นเพลงคล่องแล้ว ค่อยเพิ่มวิธีการใช้ช่วยลิ้นทำเสียงเพิ่ม เช่นจังหวะของ chord และเทคนิคพิเศษอื่นๆ ผมแนะตามประสบการณ์ส่วนตัว ตอนนี้ผมก็กำลังฝึกวิธีการใช้ลิ้นเพิ่มเติม
ผมก็ใช้ lip block อยู่ จนตอนนี้ต้องมาหัด tongue block เหมือนกัน เพราะอยากเล่นเทคนิคให้หลากหลายขึ้น
เอาละ งั้นก็ไ้ด้เวลาลอง lip block แ้ล้วสิ 🙂
ลองเลยครับ ดีกว่ามาหัดทีหลัง ตอนนี้ยังรู้สึกว่าเล่นไปก็กลับมาใช้ lip block โดยไม่รู้ตัวเลย ต้องฝึกอีกเยอะเลย
– ผมว่าคุณ Jap น่าจะหา Harp Master กับ Folk Master ให้ครบทุก key เพื่อทดสอบว่า เหมาะสมที่จะแนะนำเพื่อนสมาชิกหรือไม่ เราจะได้มี Harp คุณภาพดี ราคาถูก ไว้แนะนำเพื่อนสมาชิก และถ้าต่อไป มีคนเล่น Harp มากขึ้น จะได้ขอให้ทาง ธีระมิวสิค สั่งเข้ามาให้ครบทุก key
กำลังคิดอยู่ครับ แต่ติดที่ช่วงนี้ช็อตบ่อยเหลือเกิน
คุณ Jap ทำแบบผมก็ได้ครับ คือซื้อเฉพาะ Plate ใน Key ที่เมืองไทยไม่มี (หรือเฉพาะที่ต้องการ) แล้วมาซื้อตัว Harp ทุก Key ที่มีขายในไทย และซื้อ Key ที่คิดว่าใช้บ่อยเพิ่มตามจำนวน Plate ที่ซื้อมา หลังจากนั้นก็ถอดเอา Plate ที่ใช้บ่อยเก็บเป็นอะไหล่ แล้วเอา Plate ที่ซื้อมาใส่แทนก็จะได้ชุดใหญ่ในราคาที่ถูกกว่า และแถมมีอะไหล่ Key ที่ใช้บ่อยไว้สำรองด้วย
ถ้าต้องการเก็บ ผมจะเก็บชุดที่ร้านธีระเอาเข้ามาทุก Key ไว้ให้ก่อนก็ได้น่ะครับ (แต่ก็ไม่แน่ถ้าตลาดไปได้ ทางธีระอาจสั่ง Set 12 Key เข้ามาก็ได้ ถึงตอนนั้นต้องถูกกว่าวิธีที่ผมแนะนำไป (แต่ก็ใช้กับ Low F LowD HiG ได้ เพราะผมว่า Key พวกนี้ร้านธีระคงไม่สั่งเข้ามาแน่)
อยากทำอยู่เหมือนกันครับ น่าจะประหยัดกว่าด้วย
สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ตอนนี้ผมเริ่มอยากลองเล่น Hohner ดูบ้างครับ แต่ติดตรงที่ว่าไท่ทราบราคา
พอจะมีราคาโดยประมาณของ Marine Band Classic กับ Special 20 ไหมครับ
ไม่ควรเกินพันครับ
– ทั้งสองตัวราคาประมาณ 800 – 1,000 บาท มีที่ร้านมีสิน โทรฯ 02-622-0896-9 สำหรับ special 20 ต้องระวังจะได้ที่ผลิตจากจีน หากดูไม่เป็นไม่แนะนำ เสียงต่างจากที่ผลิตจาก German มาก สำหรับ Marine Band Classic ไม่มีสินค้าที่ผลิตในจีน จึงปลอดภัย แต่ปัญหาคือถอดล้างทำความสะอาดไม่ได้
สงสัยจะโชคดี ไม่เคยเจอจากจีนเลย
– ถ้าอยากเล่น Hohner แนะนำ Marine Band Deluxe ราคา 1,400 บาท Marine Band Crossover ราคา 1,700 บาท ติดต่อร้าน มีสิน
ถ้าเลือก deluxe ผมว่าไม่ค่อยคุ้ม ดีกว่า classic นิดหน่อยเอง หรือไม่ก็เพิ่มไปเป็น crossover เลยจะคุ้มกว่า
ขอบคุณมากครับคุณมานะ พอจะมีวิธีดูว่าอันไหนของจีนหรือของเยอรมันไหมครับ
ไม่ทราบครับ เพราะยังไม่เคยเจอจากจีนเลย
สวัสดีครับผม อยากถามอะไรนิดหน่อยนะครับคือ ผมเพิ่งหัดเป่า tremolo ไม่นาน ตัว tremolo มันไม่มีเสียงชาปกับแฟลต แต่เวลาเป่าเพลงที่มีเสียง ชาปกับแฟลต แล้วทำยังไงหรอครับ – – เลี่ยงไม่เป่าเพลงที่มีเสียงชาบกับแฟลตหรอครับหรือยังไงอะครับ ขอบคุณมากครับ
มีหลายทางครับ
1. เลี่ยงไปใช้โน้ตอื่น
2. ลองเปลี่ยนคีย์ให้เป็นคีย์ C
3. ใช้สองตัวที่เสียงห่างกันครึ่งเสียง เช่น C กับ C#
4. ใช้อีกตัวที่มีโน้ตที่ต้องการ เช่น ใช้โน้ต F# จาก tremolo คีย์ G
5. bending
ตรงเลี่ยงไปใช้โน๊ตอื่นนี่ยังไงหรอครับ
ลองเปลี่ยนคีย์ให้เป็นคีย์ C นี่คือผมจะรู้ได้ยังไงอะครับว่าโน๊ตเพลงที่ผมเป่าอยู่อะครับมันเป็นเพลงคีย์อะไร
แล้ว bending ของ tremolo ทำอย่างไรหรอครับ
ขอรบกวนหน่อยนะครับ พอดีผมไม่มีื้พื้นฐานดนตรีเลยไม่เคยเล่นดนตรีเลยอะครับ
แต่ชอบทฤษฏีดนตรีที่คุณ Jap ลงมากให้ความรู้ผมได้เยอะเลยครับ
ถามมาตอบยากมากเลยครับ
ถ้าใช้โน้ตอื่น ก็แนะนำให้ใช้กันแบบบ้านๆ by heart น่าจะง่ายสุดครับ ค่อยๆลองจนคิดว่าพอเข้ากับเพลงได้ แต่ถ้าทฤษฎีนี่พูดกันยาวเลยครับ
ส่วนเรื่องการหาคีย์ การเปลี่ยนคีย์ สงสัยคงต้องพูดกันบ้างซะแล้ว
สุดท้าย bending นี่ต้องขอเริ่มพื้นฐานของ tremolo ก่อนนะครับ จะได้เป็นขั้นตอนไป
– ขอสอบถามคุณ Jap หน่อยว่า จะสังเกตอย่างไรว่า เพลงเป็น key Major หรือ key Minor ปลุกปล้ำทำ clip เพลงลาสาวแม่กลอง ประกอบ backing track ของ ไพรวัลย์ ลุกเพชร โดยมีคุณ Harmonicafe เป็นที่ปรึกษา เทียบ Harp ทั้ง ๑๒ key คุณ Harmonicafe ก็บอกว่า ไม่ตรงสัก key สุดท้ายจึงมาทราบว่า เพลงเขาเป็น Minor key แต่ผมไปทำ Tab เป็น Major key พอเปลี่ยน Tab เป็น Minor key จึงเทียบเสียงได้เป็น key Bbm
ถ้าแค่ major – minor ก็ใช้หูเลยครับ ค่อยๆฟังเดี๋ยวก็ได้ แล้วจะมาเล่าให้ฟังครับ
มารอคำตอบด้วยคน…
ผมไม่ได้ให้คำปรึกษาอะไรหรอกครับ ไม่กล้า…กลัวพาลงห้วยหนองคลองบึงกันทั้งคู่
แค่ช่วยฟัง เพราะถ้าซ้อมไปฟังไปแบบพี่มานะจะฟังลำบาก หูถูกสมองสั่งให้เพี้ยนหมด
ไม่เคยฟังเลย แล้วมาฟังนี่แหละชัดดีครับ…ไม่เกรงใจด้วยเพี้ยนก็บอกเพี้ยนครับ
ปรากฎว่ากี่คลิปก็เพี้ยนหมด (เลยไม่แน่ใจแล้ว ว่าหูผมเพี้ยนเองรึเปล่า 5 5 5)
ไม่แม่นเรื่องทฤษฎี่ดนตรี ให้คำแนะนำอะไรก็กลัวผิด (เพราะอาจเข้าใจผิดเอง)
อยากให้คุณ Jap อธิบายเรื่อง Cycle of 5ths ว่ามันแสดงถึงอะไรครับ
circle of 5th คร่าวๆก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟังครับ ว่าถ้าเปลี่ยนคีย์มาเป็นตัวที่ 5 เช่น จาก C เป็น G (C D E F G) โน้ตในสเกลก็จะมีชาร์ฟเพิ่มมาอีกหนึ่งตัว แต่ถ้าถอยไปเป็นตัวที่ 5 เช่น จาก C เป็น F (C B A G F) ก็จะมีแฟลตเพิ่มมาหนึ่งตัว (ถ้ามีชาร์ฟอยู่แล้ว ชาร์ฟก็จะลดลงไปหนึ่งตัว)
แต่ก็มีความสำคัญอย่างอื่นด้วยหมือนกัน เช่นเรื่อง chord progression ครับ
– เรียนคุณ snowtwo ผมว่าถ้าเพิ่งหัดเล่น อย่าไปกังวลกับ note # , b เล่นให้เป็นเพลงเล่นให้สนุกไปก่อน note บางตัวจะไม่ตรงเพี้ยนบ้างก็ไม่เป็นไร พอเล่นเก่งแล้ว จะมองเห็นทางออกเอง
– Tremolo เท่าที่ผมลองเล่น ผมว่าเพลงไทยทั่วๆไป เล่นได้สบาย การ bend ก็พอทำได้ แต่ไม่ง่ายเท่า Diatonic เพียงแต่ท่านอาจจะรู้สึกเหงา ไม่ค่อยมีเพื่อน ถ้าอยากมีเพื่อนก็เล่น Diatonic ไปด้วย การเล่นกลับไปกลับมา ระหว่าง Tremolo กับ Diatonic ทำได้สบาย สมองเราเก่งมาก ขยับ ๒ – ๓ ที่ก็รู้ว่าเป็น Tremolo หรือ Diatonic ผมเองวันไหนนึกครึ้มๆ ผมก็หยิบ Tremolo มาเล่นเพลงนกขมิ้นเหลืองอ่อน เดือนเพ็ญ หรือ แม่ศรีเรือน(เอาใจคนจ่ายเงินซื้อ Harp) เล่นดนตรีต้องฝึกทุกวัน ดังที่สุนทรภู่กล่าวไว้ว่า “หนึ่งวันว่างเว้นดนตรี เจ็ดวันจากนารีเป็นอื่น”
เห็นด้วยเลยครับว่า ถ้าเริ่มต้นก็สนุกกับมันก็พอ แล้วอย่างอื่นจะตามมาเอง
วันก่อนผมไปดู silver star ร้านแรกราคา 400 บาท แต่ผมไปดูร้านที่สอง เขาบอกว่าอันนี้ของแท้ราคา 680 บาท ผมเลยงงว่ามันมีของปลอมด้วยหรอ แต่ผมดูผมว่ามันก็เหมือนกัลทุกอย่างนะ แล้ว silver star เนี่ยของเยอรมันใช่ไหมครับ หรือว่ามีของเมดอืื่นด้วย รบกวนทีครับ สงสัยมาก..
ตอนนี้น่าจะ made in China หมดแล้วนะครับ ราคาน่าจะประมาณร้านแรกนะครับ แต่ถ้าให้แนะนำก็ลองเปลึ่ยนเป็น folk master หรือเพิ่มเงินอีกหน่อยเอา harp master (ไม่น่าเกินหกร้อย) น่าจะได้คุณภาพดีกว่าครับ
สำหรับผมตอนนี้เชียร์ Harp Master สุดตัว คุ้มจริงๆ
เห็นด้วยกับคุณมานะอีกคนค่ะ Harp master เป็นพลาสติก ลื่น เล่นง่าย เสียงดี จับถนัดมือ
แต่ถ้าคนเคยเล่น comb ช่องห่างๆแบบ cross over อาจจะไม่ชินในช่วงแรก เพราะช่องห่างของ comb ตัวนี้จะแคบกว่านิดหน่อย แต่เล่นซํกพักก็ชินค่ะ 🙂
ส่วนใหญ่ไม้จะกว้างกว่าพลาสติกอยู่แล้วครับ
เห็นด้วยเลยครับ คุ้มมากตัวนี้
ผมทำ Bending ไม่ได้เลยคับ หัดมาตั้งนาน หดลิ้น ก็แล้ว เอียง Harmonica ก็แล้ว มันก็ยังเป็นเสียงเดิมอ่าคับ
ไม่ทราบว่า ทริก อไรไหมคัย
ค่อยๆหัดครับ เดี๋ยวก็ได้ ต้องใช้จินตนาการว่าอยากได้เสียงนี้ แล้วปากกับลิ้นจะไปเอง เหมือนเวลาผิวปากก็ไม่มีคนสอนว่าเสียงโดทำปากยังไง เสียงซอลทำปากยังไง
ลองจากช่องที่ 4 หรือ 6 ก่อนน่าจะง่ายกว่าครับ ถ้ายังไม่ได้อีกคงต้องลองอดคลิปมาดู จะได้บอกได้ครับ
สวัสดีครับ คือผมไม่แน่ใจว่าผม bending เป็นหรือยังอะครับ พอมีวิธีวัดความสามารถตัวเองมั้ยครับ
อ่อ อยากได้เพลง ”เก็บตะวัน” ของ อิทธิ กับ ”ลึกสุดใจ” ของ potato อ่าครับบบ Thx.
ดีครับ คือออ ผมไม่แน่ใจว่าตัวผมเอง Bending เป็นหรือยัง(ส่วนตัวคิดว่าเป็นแล้ว) พอมีวิธีวัดตัวเองมั้ยครับ
และอยากให้ช่วยแกะเพลง “เก็บตะวัน”-อิทธิ กับ “ลึกสุดใจ”-โปเตโต้ ด้วยครับ ขอบคุณครับ _/|\_
มีหลายวิธีเลยครับ ถ้าจะเทียบเสียง
1. ถ้ามีเครื่องดนตรีอื่นที่เล่นเสียงชาร์ฟ-แฟลตได้ เช่น กีต้าร์ คีย์บอร์ด ก็เล่นเทียบกันเลย
2. ใช้ตัวเทียบเสียง ที่เอาไว้ใช้ตั้งสายกีต้าร์ ก็ไม่แพงมาก ไม่กี่ร้อยเอง แถมบางรุ่นมี metronome มาให้ด้วย
3. ใช้โปรแกรม Bendometer ช่วย แต่ต้องมีไมค์ต่อกับคอม แล้วลองเล่น ตัวโปรแกรมจะช่วยเทียบเสียงให้ ลองใช้ดูก็ได้ครับ
http://www.harmonicagame.com/index.html
4. โปรแกรมอื่นๆที่ใช้แทน 1 หรือ 2 ก็มีเยอะเลยครับ ทั้งในคอม ทั้ง iphone ลองหาดูไม่ยากครับ ที่ฟรีก็เยอะด้วย
ส่วนเพลง รับทราบครับ
– ผมว่า ๒ สิ่งที่จะต้องพิจารณาหากยัง Bend ไม่ได้คือ ๑ Harp ไม่ทราบว่าคุณ Dir ใช้ Harp รุ่นไหน บางรุ่น จะBend ยาก ๒ การคาบ Harp ให้คาบแบบ Lip block และต้องคาบให้ลึกพอ หากคาบไม่ลึกก็จะ Bend ยาก วิธี Bend ก็ยกตัว Harp ขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับบีบริมฝีปากเล็กน้อย ปรับให้เสียงเปลี่ยนไป ต้องค่อยๆฝึกไป เพื่อปรับริมฝีปากด้วย
ขอบคุณมากเลยครับที่ช่วยมาตอบครับ
ขอบคุณคับ ผมใช้ Golden cup อันละ 100กว่าบาทคับ ตอนนี้ผม Bend ได้ ช่องที่ 1 คับ เหมือนเสียงต่ำ มันจะบังคับได้ แต่ช่องอื่นๆ ยังบังคับไม่ได้ อิอิ ขอบคุณคับเดี๋ยวผม จะฝึกไปเรื่อยๆ
golden cup ต้องเล่นเบาๆครับ อย่าแรงมากเพราะลิ้นมันบาง มือใหม่จะยากหน่อย
ผมทำได้ละคับ จับจุดได้แล้ว ลองเปาไปพร้อมกับเพลง บางลำพูบลูส์ จับจุดได้เลย ดีใจมากๆ ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำ นะคับ
บอกแล้วว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายครับ ถ้าเรื่มได้ต่อไปก็ไม่ยากแล้ว
ตามไปหา “บางลำพูบูลส์” ใน youtube มาฟัง
เล่นสนุกมากๆ เลย เล่นดีด้วย เดี๋ยวต้องไปหาซื้อแผ่นมาเก็บไว้ฟังสักหน่อย
ฟังแล้วอยากไปนั่งฟังที่ร้านเลย…(ไม่ได้นั่งฟังเพลงกลางคืนมาเกือบ 20 ปีแล้ว คร๊าบบบ)
วงนี้เล่นดีมากครับ เคยได้ฟังแถวท่าพระอาทิตย์ เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปคุยด้วย
พี่ครับแล้วร้านขายพวก Harmonica แบบรุ่นพวกดีๆหน่อย ในกทมบ้านเรามีร้านไหนขายให้เลือกซื้อบ้างครับ
ที่เดิมๆที่เคยไปดูบ่อยๆครับ ธีระมิวสิคที่เวิ้ง และ มีสินที่หลังกระทรวง
– มีหลายร้านครับ แต่ที่ผมเคยใช้บริการมี ๒ ร้าน
๑ ร้านธีระมิวสิค อยู่ที่เวิ้งนครเกษม โทร ๐๒-๒๒๒-๘๘๖๑ email tom_bu@hotmail.com จะเป็น Harp ของ Suzuki เป็นส่วนใหญ่ วันอาทิตย์ปิด รุ่นราคาประหยัดที่น่าเล่น คือ Harp Master รุ่นราคาที่สูงขึ้นไป ก็มี Pro Master และ Manji
๒ ร้านมิสิน โทร ๐๒-๖๒๒-๐๘๙๖-๙ อยู่ข้างคลองหลอด ใกล้กระทรวงมหาดไทย จะมีของ Hohner เป็นส่วนใหญ่ เปิดวันอาทิตย์ด้วย รุ่นที่น่าเล่น Marine Band Deluxe กับ Marine Band Crossover ส่วนรุ่น Special 20 กับ Golden Melody หากดูไม่เป็น ไม่อยากให้ซื้อ เพราะจะมานั่งเสียใจเหมือนผม ผมกำลังจะทำ clip แนะนำวิธีการดู Harp ของ ๒ รุ่นนี้ลงใน Harmonicafe blog
-อีกร้านที่เคยสั่งซื้อทางโทรศัพท์ คือ บริษัทลัคกี้มิวสิค อยู่ราชเทวี โทรฯ ๐๒-๖๕๗-๐๗๕๕
-ลองย้อนไปดูข้อมูลใน blog นี้กับ http://harmonicafe.wordpress.com ดู ก่อนตัดสินใจซื้อ ถ้าหากเพิ่งเริ่มต้นเล่น ผมแนะนำ Suzuki Harp Master หากมีงบประมาณเพียงพอซื้อให้ครบทุก key ที่ ธีระมิวสิคมีอยู่ รับรองไม่เสียใจภายหลัง(ราคาถูกกว่าต่างประเทศมาก) ลองสอบถามราคาร้านดูแล้วลองเปรียบเทียบกับราคาใน Internet ดูก็ได้
ขอบคุณสำหรับรายละเอียดครับ เห็นด้วยว่าบ้านเราตอนนี้ harp master คุ้มสุดแล้ว
– สงสัยช่วงนี้คุณ Jap งานคงจะยุ่ง เงียบไปหลายวัน คงจะสบายดีนะครับ อย่างไรช่วยแนะนำวิธีสังเกตุ เพลงว่าเป็น major key หรือ minor key ด้วยครับ ผมกำลังประสบปัญหาในการทำ tab
ช่วงนี้ยุ่งพอสมควรครับ ร้อนมากด้วย ตกเย็นก็รีบอาบน้ำ จะเปิดคอมก็หลับไปก่อนทุกที ส่วนเรื่องคลิปนี่ต้องหาเวลาหน่อยครับ ตอนนี้เลยต้องเอาอะไรง่ายๆอย่าง tremolo มาสลับบ้างครับ
สวัสดีครับคุณ jap ผมก็อ่านblogนี้มาซักพักแล้วได้ความรู้มากมายเลยเกี่ยวกับ harmonica
แต่พักหลังๆอยากจะให้เป็นเพลงให้จบมั้งแต่ผม bend ไม่ค่อยเก่ง(หรืออาจจะไม่เป็น)เลยอยากจะขอโน็ตเพลงหนุกๆเอาไว้เป่าเล่นกับเพื่อนซักเพลงได้ไหมครับ
ปล.ถ้า bend น้อยๆ(หรือไม่มี)จะดีมากครับ
ขอบคุณคัรบ
จะหามาให้ครับ เพลงเร็วๆใช่ไหมครับ (รู้สึกว่าจะติดไว้หลายเพลงแล้วนะเนี่ย)
-เรียนคุณกะหล่ำ ลองไปที่ http://harmonicafe.wordpress.com/ มี Tab เพลงอยู่หลายเพลง แต่ไม่ทราบว่าจะมีเพลงที่รู้จักหรือไม่ จริงๆแล้ว เพลงไทย ไม่ค่อยมี note ที่ต้อง bend หากมี เราก็เล่น note ตัวใกล้เคียงก็ได้ เราเล่นเพื่อความสนุกเพลิดเพลินเสีงเพี้ยนบ้างนิดหน่อยช่ามันเถอะ ไม่ได้เล่นเป็นนักดนตรีอาชีพ พอเล่นเก่งขึ้น ก็จะค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ เพียงแต่ต้องซ้อมบ่อยๆเท่านั้นเอง
เพลงเริ่มเยอะขึ้นแล้ว ดีใจที่มีคนมาช่วยกันแกะช่วยกันเล่น ถ้ามีโอกาสคงได้พบปะกันนะครับ
ที่คล้องคอแบบนี้ ไม่ทราบหาซื้อได้ที่ไหนครับ?
http://www.harmonicastore.com/product/harmonica-neck-rack-hohner-hh154.html
เคยเห็นทั่วไปตามแผนกเครื่องดนตรีในห้าง หรือไม่ก็ร้านขายกีต้าร์ทั่วไปเลยครับ หาไม่ยาก
ร้านมีสิน จะมีหรือเปล่าครับ
แล้วราคาประมาณเท่าไหร่
เคยเห็นอยู่ครับ แต่ไม่แน่ใจเรื่องราคา ลองโทรเช็คก่อนดีกว่าครับ
ขอบคุณมากครับ
ไม่เป็นไรครับ ถ้าทราบราคาก็มาบอกต่อกันก็ดีครับ
หากกลับมา ผ่านมาที่ผมอยู่จะเป็นเจ้าภาพอาหารสักมื้อ ยินดีมาก หากได้พบปะกัน
ต้องหาโอกาสแน่นอนครับ
อยากถามเรื่องการเล่นคอร์ดของฮาร์โมนิก้าคีย์ Eคะ
อยากรู้มากๆๆ ซื้อมาแล้วไม่รุ้เล่นยังไง
ขอแบบรายละเอียดเลยยิ่งดีมากคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
มันก็น่าจะเหมือนเล่นคีย์อื่นๆนะคะ แค่เสียงมันสูงต่ำต่างกับคีย์อื่นเอง (เอ หรือเราเข้าใจผิดหนอ)
รู้แต่ว่าอยากเล่นเสียงต่ำๆก็ไปหยิบ G มั่ง A มั่ง พออยากได้สูงๆ ก็ไปเอา F มาเล่น แต่เอาอันไหนมาเล่น มันก็เป่าช่องเดิม ^^
ถ้าเข้าใจผิด รบกวนมีใครผ่านมาแจ้งด้วยนะคะ 🙂
เข้าใจถูกต้องแล้วครับ
ขอโทษที่เข้ามาตอบช้าครับ คอมมีปัญหาเล็กน้อย
ก็อย่างที่เคยตอบไปครับ ถ้าเป็นคอร์ดก็
เป่า = E Major
ดูดช่อง (1) 2 3 4 = B Major
ดูดช่อง (1) 2 3 4 5 = B 7th
ดูดช่อง 4 5 6 = F# minor
ส่วนถ้าเป็นโน้ตก็
เป่า
1=E, 2=G#, 3=B, 4=E, 5=G#, 6=B, 7=E, 8=G#, 9=B, 10=E
ดูด
1=F#, 2=B, 3=D#, 4=F#, 5=A, 6=C#, 7=D#, 8=F#, 9=A, 10=C#
ลองดูที่หน้าเก่าๆก็ได้ครับ มีตารางอยู่ น่าจะอ่านได้ง่ายกว่า
คือว่าฮาโมนิก้าของผมมันไปที่ชอบๆแล้วตัวนึงครับผมเลยอยากซื้อตัวไหม่
ตอนนี้ที่ผมเห็นน่าเล่นๆ(ในใจผมน่ะ)ก็มีMarine band classic กับ Pro harp
ก็เลยอยากถามผู้รู้ว่าอันไหนดีกว่ากัน เห็นว่าMarine band classicขึ้นราได้ด้วย
ก็เลยอยากถามความเห็นขอพี่ๆทั้งหลายแหละครับขอคุณครับ
ถ้าให้เลือกแค่สองตัวนี้ เลือกเองจะใช้ Marine band classic ครับ เพราะชอบเสียงมากกว่า
Pro harp นี่ยังไม่ค่อยเจอจุดเด่นเท่าไหร่ ถ้าอยากใช้พลาสติก(เพราะดูแลง่ายกว่า) ก็น่าจะลอง Special 20 หรือ Suzuki harpmaster ก็ดีนะครับ
ส่วน Marine band ใช้มาเกินสิบปี ก็ยังไม่มีราขึ้นเลยครับ
– Comb ของ Marine band classic ทำจากไม้ ก็มีสิทธิ์จะขึ้นราได้ครับ แต่ถ้าดูแลดี ไม่น่าจะขึ้น
– ส่วน Pro harp ผมไม่เคยเล่น ตัว comb ทำจาก plastic
– อยากแนะนำให้ลอง Zusuki harp master ตัว comb เป็นพลาสติค ไม่ต้องกลัวเรื่องรา เสียงใช้ได้ ราคาถูกมาก เพียงครึ่งหนึ่งของ Marine band classic ติดต่อได้ที่ร้านธีระมิวสิค
– ส่วนตัวผมชอบ Marine band classic ครับ แต่ดูแลยากหน่อย แกะออกล้างไม่ได้
– เรียนถามคุณ Jap จากที่ติดตามทฤษฎีดนตรีของคุณ Jap มีความเข้าใจมากขึ้นพอสมควร อย่างน้อยก็เข้าใจความแตกต่างระหว่า major scale กับ monor scale และความแตกต่างระหว่าง scale กับ mode แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ห้องของโน๊ตดนตรี มีไว้จุดประสงค์อะไร ทำไมไม่นับต่อไปเรื่อยๆ ทำไมต้องมาแบ่งเป็น ห้องละ ๒ จังหวะ ๓ จังหวะ หรือ ๔ จังหวะ ยกตัวอย่าง ห้องละ ๒ จังหวะ แตกต่างจากห้องละ ๔ จังหวะอย่างไร
เรื่องการนับจังหวะให้เป็นห้องๆ ถ้านับต่อไปเรื่อยๆน่าจะยากกว่านะครับ เช่นให้เล่นไปถึงจังหวะที่ 32 แล้วก็เล่นซ้ำอีกสองรอบก็เป็นร้อยแล้วนะครับ สับสนง่าย
อย่างถ้าเครื่องดนตรีพวกกลองก็จะเห็นได้ชัดเลยครับ ว่าจะเล่นกันซ้ำๆไปเรื่อยๆ แล้วก็จะแทรกลูกส่งเพื่อจะได้ไม่เบื่อ
ส่วนการนับจังหวะในห้อง ก็จะทำให้แต่ละจังหวะเกิดความแตกต่าง เพราะการนับจะไม่ใช่แค่นับไปเรื่อยๆ แต่จะมีการเน้นหนักเบาด้วย อย่างที่ชัดๆก็จังหวะ 3/4 ก็เป็น waltz ฟังเสียงกลองก็จะเป็น ตึง แชะ แชะ ตึง แชะ แชะ แต่ถ้าเป็น 4/4 ก็จะเป็น ตึง ฉึก แต็ก ฉึก ตึง ฉึก แต็ก ฉึก ประมาณนี้ครับ ต้องลองฟังกลองดูครับ
ถ้าจะเล่นฮาโมนิก้าแบบคอร์ด เล่นยังไงอะคะ
ขอการเล่นแบบคีย์e นะคะ
Sorry for too late, now I still have some problem about my computer and Thai language.
About your question, please read on “Play more chords”
You can use these chords on E harmonica
All blow note = Chord I Major = E Major chord
Draw (1) 2 3 4 = Chord V Major = B Major chord
Draw (1) 2 3 4 5 = Chord V 7th = B 7th chord
Draw 4 5 6 = Chord ii minor = F# minor chord
เอ่อ…คือว่าอยากจะถามเกี่ยวกับ Blu หน่อยครับว่ามันคืออะไร
แล้ว blu 12 bar มันเป็นยังไงคือว่าไปเปิดเจอใน youtube
แต่ก็เค้าพูดฟังไม่รู้เรี่องอะครับเห็นเล่นไม่เหมือนกันซักคนแต่มันเท่ดี
เพลงบลูส์จะมีที่มาจากคนผิวดำ ซึ่งจะเป็นเพลงที่ไม่ค่อยเน้นโครงสร้างของเพลงให้ซับซ้อน แต่จะเน้นที่การแสดงออกของอารมณ์มากกว่า
โครงของเพลงจะง่ายๆ คือมักจะมีคอร์ดแค่สามคอร์ดก็เป็นเพลงได้ ส่วนมากมักจะเป็นท่อน ที่ละ 12 ห้องซ้ำๆไปเรื่อยๆ แต่ก็อาจจะสั้นกว่านั้นเป็น 8 ห้องก็ได้
ดังนั้นจึงมักจะได้ยินกันบ่อยๆ เรื่อง 12 bars blues หรือก็คือ โครงหลักของเพลงบลูส์ 12 ห้องนั่นเอง ซึ่งก็จะมีรูปแบบง่ายๆก็คือ
สี่ห้องแรกเป็นคอร์ด I Major
ตามด้วยคอร์ด IV Major สองห้อง, I Major สองห้อง
สุดท้ายคือ V Major, IV Major, I Major และ V Major ตามลำดับ
เช่น Key C
C C C C
F F C C
G F C G
(แล้วก็วนซ้ำไปเรื่อยๆ)
ส่วนที่เห็นว่าไม่เหมือนกัน เพราะบางคนอาจจะแปลงบางคอร์ดจะได้ไม่น่าเบื่อ เช่น เปลี่ยนไปใช้ 7th chord หรือใช้ minor บางที่ หรือใช้คอร์ดแทนก็มี
การเล่นเป็นคอร์ดจำเป็นต้องเล่นหลายคนหรอคะ
เช่นการดูคอร์ดตามเพลง
คนเดียวก็ได้ครับ แต่บางทีต้องใช้ harmonica มากกว่าหนึ่งตัว ส่วนมากคนมักจะเล่นเป็นทำนอง หรือ melody มากกว่าเล่นคอร์ด
ขอโน๊ตเพลงcanonแบบเป็นตัวเลขได้ไหมคับผมอ่านโน๊ตไม่เป็นอะคับ
ช่วยทีคับ
ขอบคุณล่วงหน้าคับ
คงต้องขอเวลาแกะก่อนนะครับ เพราะเพลงมันยาวและมีรายละเอียดเยอะอยู่เหมือนกัน
การที่เราจะเล่นเพลงอะไร เราก็ต้องมานั่งแกะเองใช่มั๊ยคะ
ถ้าแกะเองได้ก็จะดีมากครับ เพราะถ้าเล่นไปสักพักแล้ว บางทีมันก็จะเล่นได้เองโดยยังไม่ทันแกะด้วยซ้ำ
แต่ถ้ายังไม่ชำนาญหรือว่าขี้เกียจ ก็ลองถามมาก็ได้ครับ
– การเล่น Harp จะให้สนุก ต้องเล่นจากความรู้สึก(By heart) เริ่มจากร้องเพลงนั้นให้คล่อง แล้วเปลี่ยนจากการร้องมาเป็นการเป่า Harp แทน การเริ่มต้นของเพลงส่วนมากจะเริ่มที่ช่อง ๔ , ๕ หรือ ๖ โดยอาจจะเป็นเป่าหรือดูดก็ได้ ค่อยๆไล่เทียบเสียงดู เพลงบางเพลงอาจจะเริ่มจับเสียงบางเสียงได้ก่อน ก็ลองไล่เสียงดู ลองทำไปสัก ๔ – ๕ เพลงต่อไปก็เล่นเพลงได้ไม่ยาก เมื่อคล่องแล้วใช้เวลาไม่ถึง ๑ ชั่วโมงก็ไล่ได้ครบทั้งเพลง
– ถ้าทราบ key เพลงว่าเป็น key major ก็จะเริ่มโน๊ตตัวแรกเป็นการเป่า ส่วน key minor ก็จะเริ่มโน๊ตตัวแรกเป็นการดูด อันนี้ก็จะง่ายขึ้น ผมว่า Harp เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นง่ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมา เพียงแต่ต้องฝึกบ่อยๆ
– ไม่ทราบว่าคุณ Jap จะกลับบ้านเมื่อไร สถานการทางโน้นเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆอยู่เสมอครับ
ส่วนสถานการ ตอนนี้ก็ยังทรงๆ ยังมีข่าวเกี่ยวกับโรงไฟฟ้ามาเรื่อยๆ แต่ทุกคนก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ลำบากเหมือนช่วงเกิดเรื่องใหม่ๆครับ คาดว่าอาจจะกลับไปพักช่วงปีใหม่ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ
ถ้าเป็นผู้เล่นมือใหม่จะใช้harmonicaรุ่นยี่ห้ออะไรดีอะคับงบไม่เกิน500บาท
เพิ่มเงินอีกเล็กน้อย จะได้ของดีกว่าในราคาถูก ก็คือ Suzuki harpmaster นั่นเอง เกินงบนิดหน่อย แต่เสียงดีกว่ามาก
ถ้าจะเอาตามงบ ก็ต้อง golden cup (ประมาณร้อยบาท), Suzuki easy rider (เสียงดีกว่าแต่แพงกว่า) , Hohner silverstar (ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่)
ลองดูที่นี่ก่อนก็ได้ครับ แต่ยังไม่มีราคานะครับ
ช่วยแนะนำการเล่นharmonicaรุ่นpuckที่คับผมมีอยู่แต่เป็นkey g มันเล็กเล่นยากอะคับพอจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการเล่นเจ้าตัวนี้ปะคับ
รุ่นนี้มันตัวเล็กไปหน่อยครับ เอาไว้พกเล่นขำๆ เล่นทั้ง single note แล้วก็ bending ลำบากกว่าปกติพอสมควร แนะนำให้เล่นขนาดปกติ หรือไม่ก็เล่นเพลงที่ไม่ต้อง bend ครับ
ผมอยากจะหัดเล่นบ้างแต่อยากจะซื้อแบบดี ๆสักตัวไปเลย ระหว่าง Suzuki Promaster valved กับ Suzuki Hammond ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคับ แล้วที่ร้าน ธีระเค้าจะสั่งเข้ามาขายไหมเพราเมื่อเช้าผมพึ่งเข้าไปที่ร้านลองไปถาม ๆดูเค้าบอกว่า คีย์ C หมดต้องรอสั่งของ ส่วนสองรุ่นที่ผมว่ามาก็ไม่เห็นที่ร้านมี แล้วถ้าจะแนะนำเป็นตัวอื่นที่ดี ๆราคาใกล้เคียงกับสองรุ่นนี้ จะมีเป็น รุ่นไหน ยี่ห้อ อะไรบ้าง
รุ่นที่บอกมาเป็นตระกูล promaster ทั้งคู่เลยครับ โดยตระกูลนี้จะมี comb เป็นโลหะ เสียงก็จะออกไปทางใสกว่าไม้หรือพลาสติก (ซึ่งก็แล้วแต่คนชอบ ต้องลองเทียบกันดูเองก่อน) ลมรั่วก็จะน้อยมาก แต่ก็จะหนักกว่ารุ่นอื่น และต้องดูแลมากกว่าพลาสติก แต่คงไม่เท่ากับไม้
ถ้าให้เทียบในกลุ่ม promaster ผมว่าตัวปกติน่าจะคุ้มค่ากว่า เพราะ promaster valved ก็แค่ติด valve เพิ่มด้านในช่วยลดลมรั่ว (ที่ไม่ค่อยรั่วอยู่แล้ว) แถมการดูแล valve ก็มีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นมาอีก แต่ถ้าชอบเล่น valved bend ก็ไม่เป็นไร (แต่ถ้าชอบก็หา valve มาติดเองถูกกว่า) ส่วน hammond นี่เสียงจะออกไปทางก้องกว่าเล็กน้อย คล้ายเสียง hammond organ ในโบสถ์ อย่างอื่นก็ไม่ต่างจาก promaster เท่าไหร่
ถ้าจะให้แนะนำรุ่นอื่นๆ ก็น่าจะมี Suzuki manji, Suzuki harpmaster, Suzuki bluesmaster, Hohner crossover, Hohner marine band deluxe, Hohner special 20 แล้วก็ Suzuki overdrive ครับ (เรียงตามความเห็นส่วนตัว)
แถมว่า ส่วนมากถ้าเล่นพอได้แล้ว มักจะมีมากกว่าหนึ่งตัว ก็คือมักจะซื้อคีย์อื่นๆเพิ่มมา ดังนั้น อาจจะต้องเผื่ออีกซักสองสามตัวนะครับ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ harpmaster จะตอบโจทย์ได้ดี คุณภาพดึ ราคาประหยัด ซื้อหลายคีย์ก็ไม่ลำบากกระเป๋า
สรุปว่า ต้องหาทางลองเสียงก่อน ว่าชอบ ไม้ พลาสติก หรือ โลหะ ที่เหลือก็ไม่ยาก ดีกว่าซื้อมาแพง แล้วก็ไม่ถูกใจเสียงครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
ขอเสริมนิดครับ พอดีเพิ่งกลับจากต่างจังหวัด คุณเติ้ลเคยไปถามไว้ใน forum แล้วผมไม่ได้เข้าไปเลย (กลับมากำลังจะไปแก้ไขโค้ดไม่ให้โฆษณาขยะเข้ายึด forum เหมือนในปัจจุบัน จึงไปเห็นที่คุณเติ้ลถาม)
ขอตอบในอีกแง่มุมหนึ่ง (แต่ลงท้ายเชียร์ให้ใช้ Harpmaster เหมือนกัน…ฮา) ขอลงเป็น Link น่ะครับเพราะข้อความมันยาว (Load หน้านี้นานเป็นหลายนาทีเลยครับ ไม่อยากไปเพิ่มความนานเข้าไปอีก)
http://www.harmonicafe.com/forum/index.php?topic=5.msg125#msg125
ขอบคุณครับ ข้อมูลแน่นมากครับ อย่าลืมตามไปอ่านกันนะครับ
ส่วนเรื่องโหลดช้า เริ่มรู้สึกเหมือนกันครับ แต่ยังไม่รู้จะแก้ยังไงดี
ผมว่าทำ Page ใหม่
Question & Request II
แล้วทำ Link มา Question & Request เดิม
เพราะ Load นาน และข้อความมันไหลไม่หยุด ต้องกด Stop ถึงจะอ่านได้ (เป็นมากขึ้นเรื่อยๆ)
อีกอย่างเรื่องที่หาก็ไม่รู้อยู่ส่วนไหนของ Page ต้องเดาแล้ว find เอา
เพื่อนที่เข้ามาใหม่ๆ ก็เลยมักถามซ้ำในเรื่องที่อยู่ในหนาเดียวกันนี่แหละ พิมพ์ตอบใหม่เลยยิ่งยาวนานเข้าไปอีก 5 5 5
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ จะรีบปรับปรุงครับ
ถ้ายังไงก็เข้าไปอ่านของคุณ harmonicafe ด้วยนะครับ ข้อมูลแน่นปึ๊ก
ผมมีตัวเดียวเองอะคับคือpuck keyGแบบที่เป็นไม้อะคับมันเบนเสียงยากมากเลยหรอคับอยากเล่นตัวนี้เป็นมากเลยอะคับช่วยแนะนำทีนะคับ
รุ่นนี้ที่จริงก็ bend ได้ แต่ยากครับ ไม่เหมาะสำหรับคนที่ยัง bend ไม่เป็น (ขนาดตัวเองยังเล่นยากเลย)
ส่วนมากถ้าคนเล่นรุ่นนี้จะไม่ค่อย bend กันครับ เล่นโน้ตปกติดีกว่า ถ้าจะหัด bend น่าจะเริ่มจากตัวอื่นให้รู้หลักก่อนจะดีกว่า
ดีครับผมก็เคยมาถามครังสองครั้งแล้ว
เกี่ยวกับฮาโมนิก้าแต่วันนี้เลยอยากจะถาม
เกี่ยวกับร้านธีระมิวสิคว่าจะติดต่อยังไง
คือผมอยู่ต่างจังหวัดแต่จะหาของ suzuki
ซักตัวแล้วเค้าจะจัดส่งให้ป่าวครับคือ
ซื้อแค่ตัวเดียวเองอ่ะ
ขอบคุณครับ
ขอ Copy มาลงเลยล่ะกัน
ร้านธีระมิวสิค อยู่ที่เวิ้งนครเขษม สอบถามรุ่น และเส้นทางไปร้านได้ที่โทร 02-2261771, 02-2248821, 02-2239127 หรือ email : tom_bu@hotmail.com เอาไว้ถามรายละเอียดเพราะร้านนี้ลูกค้าเยอะครับ บางครั้งคนขายไม่มีเวลาหาข้อมูล ณ เวลานั้นทันที เดี๋ยวจะเสียความรู้สึก email ไปถามนี่จะทำให้เค้าให้ข้อมูลได้ครบถ้วนครับ
อ้อ มีบริการจัดส่งให้ทางไปรษณ๊ย์ครับ (ตัวเดียวก็ส่ง แต่คงมีค่าส่งเพิ่มด้วย) ลองสอบถามวิธีการที่ email ข้างต้นเลยครับ
ตอบชนกันพอดีเลย
ต้องลองติดต่อดูครับ ไม่สามารถตอบแทนได้
ร้านธีระมิวสิค
โทร 02-2261771, 02-2248821, 02-2239127
email : tom_bu@hotmail.com
อยากให้พูดถึง suzuki overdrive สนใจตัวนี้ตอนนี้ราคาประมาณเท่าไรครับ
ว่าจะพูดถึงอยู่เหมือนกันครับ แต่ต้องพูดไปถึงเรื่อง bend แบบอื่นๆ เช่น valved bend, overbend กลัวว่าถ้าไม่ได้พูดถึงก่อนแล้วจะงงกันหมด
เอาเป็นว่าเจ้า overdrive นี้สามารถทำได้หมด ทั้ง normal bend, valved bend, overbend เสียงก็ใช้ได้เลยครับ แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะอาจทำให้งงได้ แต่ถ้ามองในระยะยาวก็คุ้มดีครับ ส่วนราคาคงต้องลองโทรหรือเมล์ไปถามดูครับ ช่วงนี้ไม่มีข้อมูลเลย
สั่งซื้อ overdrive ไปแล้วครับ รอจัดส่งอยู่ คุณjabไม่สนใจไปใช่สังคมออน์ไลน์อย่างfacebookบ้างหรือครับการจัดการกลุ่มจัดพื้นทีโต้ตอบกันง่ายขึ้น
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ กำลังทดลองใช้อยู่ครับ
สั่งจากที่ไหนหรอคับ
โทรสั่งกับ ธีระมิวสิค ครับ
ช่วยแกะเพลงcanonเป็นตัวเลขให้ทีคับ
ถ้าเป็นkey g ก็จะดีมากเลยคับ
ขอบคุณคับ
คงต้องใช้เวลาสักพักครับ ตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยว่าจะเขียนโน้ตของเพลงบรรเลงยังไงดี
– Tab ที่ทำ ถ้าทำแบบหมายเลขช่อง ว่า ดูด หรือ เป่า สามารถเล่นได้กับ Harp ทุก key วิธีการเล่นก็เล่นเหมือนกัน เพียงแต่ เสียงออกมา key ต่างกัน ถ้าใช้ Harp key G เล่น เสียงเพลงที่ออกมาก็จะเป็น key G ถ้าใช้ Harp key C เล่น เสียงเพลงที่ออกมาก็จะเป็น key C ตรงนี้แหลที่ทำให้ Harp เป็นเครื่องดนตรีที่เล่นง่าย ไม่ต้องไปจำ Scale ของแต่ละ key
ใช่แล้วครับ สำหรับผู้เริ่มต้นคงยังไม่ต้องสนใจเรื่องสเกลให้มากนัก เล่นตามคีย์ไปก่อนจนคล่องก่อนแล้วค่อยหัดสเกลอื่นๆต่อจะง่ายกว่าครับ
(@chaiwat_k )คีย์ C หรือ ป่าวคับที่สั่งไป แล้วได้ของเมื่อไหร่คับ พอดีผมแวะไปที่ร้านมาเมื่ออาทิตที่แล้วทางร้านบอกกับผมว่าหมด ผมเลยอดเสียตังเลย…เหอ ๆ
ได้คุยกับคุณต้อม (ร้านธีระ) ทราบว่าได้สั่ง Lote ใหม่ด่วน (มาทาง air) ให้แล้วครับ รอสักนิดดีกว่าสั่งจากต่างประเทศครับ ใน Net แพงมาก เมืองไทยขายถูกที่สุดแล้วครับ ถูกกว่าซื้อที่ญี่ปุ่นอีก
ผมเองใช้ Overdrive แต่ก็ติดที่มีไม่ครบ Key ก็ยังไม่สั่งจาก Net เลย (แพงจริงๆ) ต้องใช้วิธีสั่งแต่ Reed Plate เฉพาะ Key ที่ต้องการ แล้วมาซื้อ Overdrive Key C ทั้งตัวที่ร้านธีระ แล้วจึงเปลี่ยน Reed Plate ที่จะเล่นใส่แทน เก็บ Reed Plate Key C ไว้เป็นอะไหล่ คำนวณราคาแล้วก็ยังถูกกว่ามากเลย (พิมพ์แล้วก็กลัวคุณต้อมมาอ่านเจอ แล้วขึ้นราคาดีกว่า เหมือนกันนะเนี่ย) ผมจึงมี Key C ตุนไว้หลายตัวครับ ถ้ารอไม่ไหวก็มาแบ่งไปได้ ไม่เอากำไรครับ ไม่อยากให้เสียดุลย์ต่างประเทศ แต่ถ้ารอได้ (ไม่นานเพราะไม่ได้มาทางเรือเหมือนทุก Lote) ก็รอเถอะครับ อยากให้อุดหนุนร้านธีระครับ (ถ้ามาเอาจากผม พอของมาผมก็ไปซื้อมาเก็บไว้เหมือนเดิม)
ยังจำได้ว่าเคยเขียนใน Blog เกี่ยวกับ Suzuki Overdrive เมื่อปีที่แล้วว่า ผมอยากลองมากเลย (ก่อนทำ Blog ประมาณ 3 ปี ก็คือประมาณ 4 ปีที่แล้ว) และผมเป็นลูกค้าร้านธีระเพราะใช้ Promaster อยู่ก่อน จึงยุให้คุณต้อมสั่ง Overdrive มา แล้วก็บรรยายสรรพคุณจนคุณต้อมเคลิ้มสั่งมา (ให้ผมซื้อเป็นคนแรก) แต่หลังจากผมซื้อแล้ว นานเป็นปีก็ออกจากร้านไม่กี่ตัวเอง คุณต้อมบอกว่า “Overdrive ของพี่ นานมากแล้ว…ไม่ออกเลยครับ” ตอนนั้นผมรู้สึกผิดมากเลย แต่ก็ทำใจคิดแต่ว่าของมีคุณภาพ เดี๋ยวพอคนรู้ก็ขายได้เอง (ประโยคประมาณนี้แหละ พิมพ์ใน Blog ผมเมื่อปีที่แล้ว)
จนทุกวันนี้ Overdrive คือรุ่นที่ผมชอบเสียงที่สุดครับ ไม่มีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนเหมือนเลย (แม้แต่ Suzuki ด้วยกันเองก็ตาม) และเป็นรุ่นขายดีพอสมควร เพียงแต่คนยังไม่ชินกับการใช้ จึงดึงความสามารถของมันออกมาไม่หมด ถ้าหัดจับจนชินกับการบังคับช่องลมบนตัว Cover Plate แล้ว มันผลิตเสียงได้ครอบคุมการเล่นทุกรูปแบบเลยครับ (แต่ผมว่ามันทำ Valved Bend ได้คล่องกว่า Overbend มากครับ)
ขอบคุณครับ
เรื่องการ bend แบบต่างๆนั้น normal bend กับ valved bend จะทำได้ง่ายกว่า overbend อยู่แล้วครับ เพราะ overbend จะค่อนข้างฝืนลิ้นอยู่พอควร
@เติ้ล สั่งไปตอนวันศุกร์ครับ
คงต้องรอกันอีกนานเลยทีเดียวสำหรับ ฮาร์โมนิก้า คีย์ C ที่ร้านธีระมิวสิค เนื่องจากเมื่อกี้นี้ได้โทรไปสอบถาม ทางร้านบอกว่าประมาณกลางเดือนหน้า
วันนี้ไปถอย Suzuki Folkmaster มา จะได้หัดเล่นสะที ( พี่ต้อมก็บริการดีน่าประทับใจ)
กำลังหัดเพลง hot cross buns ใช่โน๊ต3ตัว(2ช่องเป่า)
– เรียนคุณเติ้ล ถ้ามีกำลังทรัพย์พอ ผมอยากให้เก็บ Suzuki Harp Master ทุก key ที่ร้านธีระมิวสิคมีเอาไว้ บอกได้เลยว่าราคาถูกที่สุดในโลก เสียงจะดีกว่า Folkmaster พอสมควร พอเล่นเป็นแล้ว จะรู้ว่าจำเป็นต้องมี Harp ครบทุก key ผมเองหลังจากที่ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณ Jap ทำให้มี Harp ครบทุก keys แล้ว มีความสุขมาก มี Backing track key ไหนก็เล่นได้ ความจริงแล้ว Folkmaster เสียงก็ใช้ได้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น ผมเองก็มี Folkmaster key A กับ D ก็ยังหยิบฝึกเกือบทุกวัน แต่ถ้าหากเล่นเป็นงานเป็นการ Harp Master ย่อมดีกว่าแน่นอน ผมเคยแนะนำให้คุณต้อม สั่ง Folkmaster ที่เป็น set ครบ 12 keys มาจำหน่าย คิดแล้วราคาไม่น่าจะเกิน 4,000 บาท ราคาก็เท่ากับ Guitar 1 ตัว ผมว่าเหมาะกับผู้เริ่มต้น แต่คุณต้อมคงไม่กล้าสั่งมา คงกลัวเหมือน Overdrive ที่คุณ Harmonicafe เคยแนะนำ
– ในความเป็นจริงแล้ว การหัดเล่น Harmonica ไม่จำเป็นต้องใช้ Harp key C ก็ได้ ถ้าเราไม่ได้ ฝึกเสียงตาม CD ยิ่งการเล่นตาม Tab ที่ทำเป็นตัวเลข ใช้ Harp key ไหน ก็เล่นเพลงนั้นได้เหมือนกัน เพียงแต่เสียงที่ออกมาก็เป็นเสียงตาม key ของ Harp ตัวนั้น ผมเองตอนนี้กลับชอบ Harp เสียงต่ำพวก key G,Ab,A,Bb
– ขอให้สนุกกับ Harp นะครับ
ที่จริงก็น่าเสียดายนะครับ บ้านเราน่าจะมี harmonica รุ่นดีๆ อย่าง harpmaster ให้ครบทุกคีย์ ก็คงต้องลุ้นกันต่อว่า ทิศทางของบ้านเราจะเป็นยังไงต่อไป
ช่วยแกะเพลงให้หน่อยได้ไหมคับ http://www.youtube.com/watch?v=dPHxvgP8mmA&feature=fvsr กับ http://www.youtube.com/watch?v=W1S4BByWyXo&feature=related (เอาท่อนที่เค้าเป่าเม้าอ่ะคับ) ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคับผม
ขอลองฟังก่อนนะครับ แล้วจะลองแกะดู
สวัสดีครับ ผมเป็นมือใหม่ ดีใจมากที่เจอblogนี้ ผมอยากได้โน๊ตเพลงนี้อ่าครับhttp://www.youtube.com/watch?v=W1S4BByWyXo&feature=related(ช่วงท้ายๆที่พี่ ปู เป่า เม้าท์ออแกนอ่ะครับ) ผมใช้ Hohner silver star คีย์ C ครับ รบกวนด้วยนะครับ
เหมือนเดิมครับ ขอลองฟังก่อน แล้วจะค่อยๆทยอยลงให้ครับ
สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ๆ ที่รักชอบฮาร์โมนิกาทุกคน
ผมต้อมครับ จากร้าน ธีระมิวสิค ผมขออนุญาตแจ้งข่าว ฮาร์โมนิกา SUZUKI ที่จะมาวันพรุ่งนี้ คือ ของจะมาวัน พุธ 28 กันยายน 54 นี้ครับ >>>> ส่วนของจะพร้อมขายหน้าร้าน วัน พฤ. ศ. ครับ
Chromatic : SCX-48, SCX-56, SCX-64
Diatonic : Overdrive – C
BLUE MASTER – D , G , A
MANJI – D , G , A
PRO MASTER – C , D , G , A , E , F , Bb
HARP MASTER – C , G , D , A , E, F , Bb
หมายเหตุ : BLUE MASTER , MANJI คีย์ C ของที่ญี่ปุ่นขาด ทาง SUZUKI จะส่งมาทาง air mail ทันทีที่ของมา
สอบถามสินค้าที่ 02-2248821, 02-02228861
ขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณที่มาแจ้งครับ
มีของมาแจ้งอีกหน่อยครับ
ฮาร์โมนิกา Holder สำหรับ Diatonic ของ SUZUKI มาแล้วนะครับ ( จริงๆมาตั้งแต่รอบที่แล้วแล้ว แต่ดันหาไม่เจอ พึ่งจะมาเจอวันนี้เองครับ ราคาลดแล้วอันละ 1,000 บาท
ราคาอาจจะแพงกว่าบริษัทของจีน แต่น่าจะถนอม ฮาร์โมนิกาที่รัก ได้ดีกว่าครับ
ขอบคุณมากครับ
เห็นด้วยครับ เคยใช้ของจีน เป็นรอยแถมยังเจ็บต้นคออีกต่างหาก
– ผมว่าท่านที่เล่น Harmonica น่าจะเก็บ Harpmaster หรือ Promaster ให้ครบทั้ง 7 keys ที่ร้านธีระมิวสิค มีอยู่รับรองว่าท่านหาซื้อที่ไหนไม่ได้ในราคานี้ ท่านที่มีกำลังทรัพย์มาก ผมแนะนำ Promaster แต่หากกำลังทรัพย์ไม่พอสำหรับ Promaster ก็เก็บ Harpmaster แล้วท่านจะมีความสุขกับการเล่น Harmonica กับ เพลง karaoke ที่ท่านมีได้ทุกเพลง ผมเองพอผมทราบว่ามี Promaster key F , Bb ซึ่งเป็น key ที่ผมยังไม่มี ผมรีบสั่งมาทันที ได้รับของเรียบร้อยแล้ว ผมวางแผนว่าจะเก็บ Promaster ให้ครบทั้ง 12 keys ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ครบ 14 keys
– สำหรับผมแม้ผมจะชอบเสียง ตระกูล Marine band แต่ Marine band ดูแลทำความสะอาดยาก หากเสียงตื้อ ต้องแกะล้างอย่างเดียว สำหรับ Promaster ผมใช้วิธีแช่น้ำสัก 30 นาที แล้วเป่าในน้ำสะดวกกว่า นอกจากนี้ ตัว Coverplate ของ Promaster แข็งแรงมาก ไม่ต้องระมัดระวังมาก ดังนั้นในภาพรวมตอนนี้ Promaster คือ Harmonica อันดับ 1 ของผม เสียดายแต่ ร้านธีระมิวสิค ยังไม่ยอมสั่งมาให้ครบ 12 keys จะสั่งจาก web ราคารวมค่าส่งก็มากกว่าร้านธีระมิวสิค 2 เท่า ผมมี Promaster รวมกับ Harpmaster ครบ 12 keys แล้ว จึงไม่เดือนร้อน ก็จะรอให้ร้านธีระมิวสิค สั่ง Promaster มาครบ 12 keys ก็ค่อยตามเก็บให้ครบ
เห็นด้วยเลยครับ ต้องเชียร์ทางธีระมิวสิคให้สั่งทั้งสองรุ่นนี้ให้ครบ 14 คีย์ไปเลยครับ
พี่ jap ครับ harmonica key อะไรบ้าง ??
ที่ใช้บ่อยและประจำที่สุดหละครับ
ช่วยบอกหน่อยครับมีกี่ key??
จำได้ว่าเคยเขียนไปบ้างแล้วครับ
น่าจะพอช่วยตัดสินใจได้บ้าง
– ผมขอให้ความเห็นอย่างนี้ คำตอบข้อนี้ต้องตอบเป็น ๒ ประเด็น
๑ หากเล่นเพื่อฝึกกับ หนังสือคู่มือที่อาจจะมี CD ประกอบ อันนี้ต้องใช้ key C
๒ หากต้องการเป่าให้เป็นเพลงสนุกๆ ไม่ได้ไปเล่นกับ backing track อันนี้ใช้ key ไหนก็ได้ harmonica ๑ ตัว(ไม่จำกัด key) สามารถเล่นเพลงได้ทุกเพลงครับ เพลงแต่จะได้ key ของเพลงนั้นตาม key ของ Harmonica สำหรับผมชอบ harmonica key Ab , Bb ท่านอาจจะใช้ key G , A ก็ได้
๓ หากต้องการเล่นโดยมี Backing track ประกอบ อันนี้ต้องมีให้ครบทุก key เหมือนผม หากท่านมีกำลังซื้อให้ครบทุก key จะทำให้ท่านสนุกกับการเล่น Harmonica เหมือนผม
– หากยังกังวล ก็เลือก key C ไว้ก่อนดีที่สุด แล้วค่อยหาความชอบ หรือ Harmonica ที่เหมาะกับเสียงของเราเอง เอาไว้เล่นประกอบกับการร้องเพลง สนุกครับ
ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับความเห็นดีๆ
– คุณ Jap เป็นอย่างไรบ้าง คงจะทราบข่าวน้ำท่วมแล้วนะครับ ประเทศไทยปีนี้หนักที่สุด โรงพยาบาลผมน้ำไม่ท่วม ตอนนี้ผมมาช่วยที่ รพ.ดอนพุด จ.สระบุรี ตั้งแต่เมื่อวาน จะกลับวันนี้ เหมือนมาอยู่ในเกาะ จะใช้คำว่าเกาะ ก็คงจะไม่ถูกนัก เพราะเกาะคือพื้นดินที่สูงกว่าน้ำ แต่นี่ พื้นโรงพยาบาล ต่ำกว่าน้ำ ต้องทำกั้นรอบ สูง ๒ เมตร การเดินทางเข้าโรงพยาบาลต้องนั่งรถทหารเข้าไป รถธรรมดาเข้าไม่ได้ ได้ข่าว อยุธยา กับ นครสวรรค์แล้ว เห็นใจมาก รพ.ผมได้ส่งทีมไปช่วย รพ.อยุธยา ในการขนย้ายผู้ป่วย และได้รับผู้ป่วยบางคนมารักษาต่อด้วย เห็นใจจริงๆ
พอจะทราบเหมือนกันครับ ดูแล้วน่าสงสารมาก อยู่ที่นี่ก็ช่วยเท่าที่จะสามารถช่วยได้ครับ
สวัสดีค่ะ พี่ jap
คืออยากถามว่าพี่พอทราบ harmonica ที่ใช้ในเพลง when you say nothing at all รึเปล่าว่ารุ่นไหนยี่ห้ออะไร คือชอบเสียงประมาณนี้ ไม่อย่างนั้นอยากได้เสียงโทนแบบๆนี้เลยอะค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอลองฟังก่อนนะครับ
เพลง when you say nothing at all ของ Ronan Keating นะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ลองฟังคร่าวๆ สำเนียงคล้ายๆเสียง woodwind มากกว่าครับ ประมาณปี่สก็อต ขลุ่ยไอริช แนวๆนั้นครับ ต้องหาข้อมูลเพิ่ม
ขอบคุณสำหรับคำตอบมากๆค่ะ
แต่ว่าดูใน mv เห็นคนมีเคราเหมือนเล่น harmonica เลย ก็เลยฝากถามพี่ jap ว่าใน mv คือมันไม่ใช่ harmonica ใช่ป่าวค่ะ ขอบคุนล่วงหน้ามากๆค่ะ
ไม่ทราบว่าเป็น mv ตัวไหนครับ เพราะเห็นแต่อันที่มี flute พอจะมีลิ้งค์ไหมครับ
สวัสดีครับ มิตรรักแฟน Harmonica ทุกท่าน
ผมพึ่งกลับจากงานแสดงเครื่องดนตรี ที่เซี่ยงไฮ้มาเมื่อวาน (ไว้จะมาเล่าเรื่องเรื่องฟังทีหลัง)
ที่จะมาแจ้งข่าววันนี้คือ เมื่อวานนี้ก็มีของส่งทาง Air จาก SUZUKI มา
Diatonic : Harp Master คีย์ Eb , Ab , Db , F# และ B
Manji คีย์ C
Blue Master คีย์ C
Tremolo : SU-24
ของเข้ามาครบเรียบร้อยแล้วครับ
ปล.สถานการณ์น้ำท่วม ค่อนข้างน่ากังวลอยู่ตอนนี้ ไม่ทราบว่าท่านใดได้รับผมกระทบบ้างหรือเปล่า
ผมขอเป็นกำลังใจ ให้กับทุกๆท่าน ที่ประสพปัญหาเดือนร้อนในครั้งนี้
และขอขอบพระคุณจากใจจริง สำหรับในหลายๆพื้นที่ ที่ต้องรับภาระการรับน้ำแทน เพื่อป้องกันกรุงเทพชั้น
ใน รวมถึง ร้านธีระมิวสิคของเรายังคงปลอดภัยอยู่ …… แต่ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยตลอดช่วงนี้หรือเปล่า
ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าวสารดีๆ ขอรวบรวมไว้ที่ ประชาสัมพันธ์ นะครับ จะได้อ่านกันง่ายๆ ไม่ต้องโหลดนาน
ต่อไปคุณต้อมก็ลงไว้ที่นี่ก็ได้ครับ หรือไว้ที่เดิม ถ้าผมเห็นก็จะก็อปไปไว้เหมือนกัน
พูดถึงของ ช่วงปีใหม่กลับเมืองไทยต้องได้สอย harp master ครบชุดแน่ (ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะมี 12 หรือ 14 คีย์) ถ้าไม่รบกวนช่วยเหลือไว้ให้บ้างนะครับ
ส่วน SU-24 ได้ยินแล้วเสียดายมาก เพิ่งจะสั่งซื้อมาสองตัว (ห้าพันกว่าบาท) รู้อย่างนี้รอหน่อยดีกว่า ลืมบอกไปว่า เจ้านี่เป็น octave นะครับ ไม่ได้เป็น tremolo เผื่อเอาไว้โฆษณาได้ (โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็น octave harmonica ที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้)
ไหนๆก็เขียนมาเยอะแล้ว ขอเชียร์ให้ทางธีระมิวสิคทำกระเป๋าใส่ด้วยเลยครับ จะได้ครบสูตร เพราะของบ้านเราน่าจะถูกกว่า แถมงานก็น่าจะดีกว่ามาก
ขอโทษด้วยครับ ที่ผมลงผิดที่ไปหน่อย ….. ไม่ได้ตั้งใจนะครับ แฮ แฮ
ว่าแต่ octave กับ tremolo มันต่างกันยังไงอะครับ แล้วอย่างตัว W-24 winner ที่อาจารย์ นพดล แนะนำไว้ใน CD สอน เนี่ยมันใช่ tremolo รึเปล่าครับ
ขอบคุณมากครับ คุณ Jap
ไม่ใช่อย่างนั้นครับ พอดีเห็นข่าวจากคุณต้อมมาหลายครั้ง แล้วก็น่าสนใจทั้งนั้น ผมก็เลยรวมไปไว้อีกหน้านึง เผื่อเพื่อนๆจะได้อ่านกันง่าย ไม่ต้องเสียเวลาหาหรือโหลดนานครับ เพราะรู้สึกว่า หน้าคำถามจะเริ่มอ่านยาก
เรื่อง octave จะต่างกับ tremolo ตรงที่เสียงของ tremolo ทั้งแถวบนกับแถวล่างจะเป็นเสียงเดียวกัน แต่ของ octave แถวบนจะเสียงต่ำกว่าแถวล่างอยู่หนึ่ง octave (เช่น โดต่ำกับโดสูง) ซึ่งจะทำให้เสียงที่เล่นออกมาได้อิ่มและเต็มกว่า tremolo ส่วนวิธีการเล่นก็เหมือนกันเลยครับ
แล้วส่วน winner series ก็เป็น tremolo รุ่นประหยัด มีตั้งแต่ 16, 20, 24 ช่องครับ
– ผมเพิ่งทราบว่า SU-24 เป็น Octave harmonica ผมซื้อมาจากร้านธีระมิวสิค เวลาเล่นผมว่าเสียงไม่เหมือนเสียง tremolo ของ golden cup ที่ผมมีอยู่ ต่างกันค่อนข้างมาก
– เพิ่มเติมจากคุณJap เล็กน้อย เพื่อคุณต้อมจะได้เข้าใจละเอียดขึ้น Tremolo ต่างจาก Diatonic ตรงที่ 1 ช่อง จะเป็นสำหรับ เป่าหรือดูดอย่างเดียว ไม่เหมือน Diatonic ที่ 1 ช่องมี่ทั้งดูและเป่า สำหรับ Tremolo(ปกติ) 1 ช่อง จะแบ่งเป็น บน กับล่าง จะเป็นโน๊ตตัวเดียวกัน เช่น โน๊ต C แต่’ลิ้นของช่องบนจะ แต่งเสียงให้เป็น C ที่มีเสียงต่ำลงนิดๆ ส่วน เสียง C ช่องล่าง จะแต่งให้สียงสูงนิด เมื่อเป่าก็จะได้เสียง C สองเสียงที่ต่างกันเล็กน้อยพร้อมกัน เป็นเสียงที่เขาเรียกว่า Tremolo sound ส่วน octave harmonica ก็ดังที่คุณ Jap อธิบายไปแล้ว เมื่อเป่า จะได้ C สองเสียงที่ห่างกัน 1 octave
อย่าเอา octave ไปเทียบกับ golden cup เลยครับ มวยคนละรุ่นกันเลยครับ
– ไม่ได้เอามาเปรียบเทียบเรื่องความไพเราะครับ แต่หมายถึง ความเป็นเสียงแบบ Tremolo แต่เมื่อคืนผม ลองเล่นเจ้า SU-24 ผมว่า SU-24 เป็น tremolo ไม่ใช่ octave อย่างไรคุณ Jap ลองตรวจสอบอีกครั้ง เสียง note ช่องบน ช่องล่าง ต่างกันเล็กน้อย ไม่ถึง 1 octave
– Tremolo ของ golden cup ก็ไม่เลวนะ เสียง tremolo ผมว่าดีที่เดียวผมยังชอบเลย เพียงแต่ดูบอบบางไปหน่อย
– ตอนนี้น้ำเริ่มเข้าโจมตี อ.หนองแค จากด้านทิศใต้ น้ำบ่ามาจาก อ.วังน้อย ต้องอพยพประชาชน ไปรวมที่ศูนย์อพยพ ผมต้องออกหน่วยทุกวัน เห็นใจชาวบ้านมาก ไม่เคยคิดว่าจะเป็นอย่างนี้ ชั่วชีวิตไม่เคยเจอ เลยไม่ได้เตรียมตัว ก็ได้เห็นน้ำใจคนไทย หลั่งไหลมาช่วยกัน เพียงแต่คนไทยยังขาดความเป็นระเบียบวินัย สั่งให้อพยพไปอีกศูนย์หนึ่ง ก็ไม่ยอมไปขออยู่ที่เดิม ทุกวันต้องนำอาหารเข้าไปเลี้ยงคนเป็นร้อยทางเรือลำบากมาก ผมจะเข้าไปดูแลก็ไม่ได้ ต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ทำเท่าที่สามารถจะทำได้ ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปก็เป็นห่วง ต้องเน้นให้ใส่เสื้อชูชีพ
เริ่มจะงงเหมือนกันครับ เลยลองหาข้อมูลดูใหม่ กลายเป็นว่างงกว่าเดิมอีก ไปหาในเว็บภาษาอังกฤษ เจ้า su-24 ก็เป็น tremolo จริงๆ (แต่มีชื่อเต็มว่า 2 timer tremolo)
http://www.suzukimusic.com/harmonicas/su21-24/
ก็ลองเอาตัวที่เพิ่งจะได้มาลองใหม่ ก็เป็น octave แน่ๆ เลยต้องใช้ความพยายามไปหาจากภาษาญี่ปุ่นเลย คราวนี้ก็กลายเป็นว่าเจ้า su-24 กลายร่างเป็น octave (แต่จะมีชื่อเป็น su-24 octave)
http://www.suzuki-music.co.jp/search/B_000080.html
ก็น่าจะเดาว่า ที่ทางธีระมิวสิคนำเข้ามา น่าจะเป็น 2 timer tremolo มากกว่า su-24 octave แบบที่ผมมีครับ ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือเปล่า ต้องรบกวนคุณมานะ หรือ คุณต้อม ช่วยดูรูปให้ด้วยครับ
– ถูกต้องครับ SU-24 ที่ทางร้านธีระนำเข้า เป็น SU-24 2 timer tremolo
ขอบคุณครับ งั้นต้องบอกต่อคุณต้อมด้วยครับ จะได้ไม่สับสน
สวัสดีครับ
คือเป็นมือใหม่กริปๆเลยนะฮะ ที่นี้ กำลังจะซื้อ ไว้ซัก เท่าที่ผมดูมา
ผมชอบตัว HOHNER MEISTERKLASSE
ไม่ทราบว่าตัวนี้ จะโอเคไหมครับ สำหรับมือใหม่แล้วก็ราคาที่ประมาณเท่าไร พอจะบอกได้ไหมครับ
ถ้าเป็นในเมืองไทยหาซื้อที่ไหนได้บ้างเหรอครับ
ขอบคุณครับ
ตัวนี้เกรดดีเลยครับ เสียงใส แต่ค่อนข้างแพง เคยเห็นที่ร้านมีสินครับ ราคาน่าจะสามพันขึ้นนะครับ ไม่แน่ใจ
ไม่ทราบมีเบอร์หรือที่อยู่ร้านมีสินไหมครับ?
– ร้านมีสิน โทรฯ 02-622-0896-9 อยู่ริมคลองหลอด มาจากถนนราชดำเนินกลาง จะถึงก่อนกระทรวงมหาดไทย
ขอบคุณมากครับ คุณ Jap และ คุณ มานะ
ที่ร้าน ธีระมิวสิค นำเข้ามาขาย คือ รุ่น su-24 เป็น tremolo
แต่ที่เป็น Octave ยังไม่เคยสั่งมา แต่ถ้าสนใจกันเยอะ ผมจะลองรวมๆยอดและสั่งให้ในคราวต่อๆไป
ขอบคุณมากครับ
พี่ครับ คือผมได้ Harmonica แบบ Diatonic ของ Golden Cup มา
ก็เริ่มเล่นมา 2 วันน ตอนนี้ก๊เข้าใจวิธีเป่าบ้างเล็กน้อยย
พี่ว่าผมจะเริ่มยังไงดีครับ ที่จะได้เล่นเป็นเพลง เพราะๆ 🙂
รบกวนหน่อยครับ คือ ผมอยากทราบว่า ฮาโมนิก้า รุ่น PUCK นี่คุณภาพเสียงเป็นอย่างไรครับ และถ้าจะซื้อจะหาได้จากที่ไหนบ้างครับ
ขอบคุณครับ
โทษนะครับพี่ มือใหม่เล่น chromatic พอไหวไหมครับ ผมอยากเล่นได้แบบนี้อะครับ http://www.youtube.com/watch?v=FgS7RVS46ac วันนึงผมเปิดฟังหลายรอบมากเลยอยากเล่นเองได้มั่งครับ ขอบคุณนะครับ
ถ้าชอบเสียงของ Chromatic (ผมตามไปฟังมาแล้วเพราะมากเลย) ก็เริ่มที่ Chromatic เลยครับ
ทำสิ่งที่เราชอบจะง่ายขึ้น อย่างตัวผมเองก็เริ่มที่ Chromatic มีข้อได้เปรียบ Diatonic ตรงเล่นได้ครบเสียงเร็วกว่า จึงเล่นเพลงง่ายไม่ขัดหูได้กำลังใจขึ้นเยอะครับ
ติดอยู่ตรงที่เครื่องมันราคาค่อนข้างสูงครับ (ของเยอรมัน และญี่ปุ่น ราคาสามพันขึ้นทุกตัว ถ้ารุ่นสูงหน่อยก็ไป 4-5 กว่า ก็เลยต้องแนะนำให้เล่นเครื่องจีนแดงถึงจะหลุด QC บ่อย แต่ก็เลือกให้ดีๆ เล่นถนอมๆ ก็ใช้ฝึก และเล่นจริงได้ครับ (อ.นพดล ก็ใช้ของจีนแดงเล่นออกงาน ผมเคยเห็นในคลิป youtube เก่าๆ อาจารย์ได้เป็นของขวัญจากภรรยา )
เครื่อง Chromatic ของจีน หาได้ที่หลังกระทรวงที่เดียวแล้วครับ แถวเวิ้งนครเขษมหายากแล้ว ราคาประมาณ 2-3 ร้อยบาท แล้วแต่ฝีมือการต่อรองครับ
อ่าครับ ขอบคุณมากครับพี่ ถ้าตัว 3000+ นี่ที่เวิ้งนครเกษมมีใช่ไหมครับ แล้วเทคนิคเลือกซื้อควรเลือกยังไงครับ อ้อ แล้วถ้าเป็นของจีนนี่มีให้เลือกหลายแบบไหมครับพอดีผมเป็นคนยึกติดกับรูปทรงด้วยอ่าครับ ขอบคุณครับพี่
เป็นของญ๊่ปุ่นยี่ห้อ Suzuki ครับ
ลองติดต่อที่ ธีระมิวสิค ที่เวิ้ง หรือเซ็นทรัลพระรามเก้าดูครับ (รายละเอียดลองย้อนดูข้างบน)
ส่วนของจีนมีแบบเดียวครับตัวยาวๆ ของยี่ห้อ Tower กับ Hero เหมือนกันเปะ
เมื่อสัก 5-6 ปีก่อนเคนมีร้านนำรุ่นที่รูปแบบเหมือนของ Hohner มาขาย แต่มีปัญหามากเรื่องคุณภาพ คงโดนลูกค้าซื้อแล้วเอามาเปลี่ยนจนร้านที่เอาเข้ามาเข็ด…ปัจจุบันนี้เลยไม่เคยเห็นแล้วครับ แต่เคยพบบ้างใน Net คงเป็น Stock เก่าๆ ที่เหลืออยู่ แต่ไม่แนะนำจริงๆ เพราะแพงราคาร่วม 2000 แ่ต่คุณภาพแย่ บางช่องเสียงไม่ออกก็มี ผมเคยจะเก็บรุ่นสวยๆ ของจีนพวกนี้ (กล่องใส่สวยมาก) แต่อย่างที่บอกบางช่องไม่มีเสียงเลยเลิก…ซื้อมาก็เอาไปคืนหมดเลยครับ
ขอเพิ่มรายละเอียดอีกนิด…กลัวเข้าใจผิดน่ะครับ
ที่ราคา 3000 ปลายคือ Hohner Superchromatic stock เก่าที่ฮงเซ่ง
ส่วนราคา 4000 ต้นคือ Suzuki ตระกูล SCX ที่ร้านธีระ
เผื่อท่านอื่นเข้ามาอ่านจะได้ไม่สับสนครับ
อ่าา ครับตอนนี้ผมไปได้ ของ golden ครับตัว 200 มาลองก่อนครับ แต่ไม่ค่อยกล้าเล่นเพราะในช่องเป่ามันมีขุยๆพลาสติดหลุดๆเต็มเลยกลัวดูดเข้าไปแล้วมันลงปอดอะครับ เลยว่าจะซื้อดีๆละ จะได้ตั้งใจหัดซักที พี่มีแนะนำรุ่นไหนไหมครับของ suzuki ขอบคุณครับบบ
ของ Golden Cup ก็มีรูปร่างเหมือนของ Tower ครับ…คือออกยาวๆ
ก็ต้องเอามาตกแต่งนิดหน่อย เอาไขควงไข CoverPlate ออกแล้วเป่าเศษพลาสติก และลบเหลี่ยมมุมของพลาสติก (หรือเหล็ก !!!) ส่วนที่จะสัมผัสปากเราให้เรียบร้อย เกลี้ยงเกลาดีแล้วจึงค่อยใช้ ไม่เช่นนั้นมีแสบปากแน่นอน
ซื้อมาแล้ว ตกแต่งเรียบร้อยก็ลองเล่นไปพลางๆ ก่อนได้ครับว่าชอบจริงที่จะลงทุนซื้อตัวราคาสูงรึเปล่า
ถ้าแน่ใจก็เขยิบไปที่ Suzuki ตระกูล SCX 48, 56, 64 มีอยู่สามรุ่น สำหรับเริ่มต้นใช้รุ่นเล็กสุด SCX 48 ก็พอ ไม่แน่ใจว่าราคาเท่าไหร่ ลองสอบถามธีระมิวสิคดูครับ (และไม่ทราบเช่นกันว่าปัจจุบันทางร้านเค้านำรุ่นไหนมาลงบ้าง)
และคงเป็นยี่ห้อเดียวที่สามารถซื้อได้ในราคานี้เพราะของ Hohner จะราคาไปอยู่ที่ 5 พันกว่าหมด แต่ก็ยังมีรุ่นเก่าหลงเหลืออยู่บางร้านในเวิ้งเช่น ฮงเซ่ง (ไม่รู้สกดชื่อร้านถูกรึเปล่า ลองดู Comment เก่าๆ ที่ผมเคยลงชื่อ และเบอร์ร้านไว้แล้วครับ) ที่มี Hohner Superchromonica Lote เก่าๆ เหลืออยู่ (ที่ร้านมีสิน หรือหลังกระทรวงไม่มีแล้ว) ราคาก็จะพอๆ กับ SCX 48
เปรียบเทียบระหว่างสองตัวนี้ ( SCX 48 กับ Superchromonica รุ่นเก่า) เอาสั้นๆ ง่ายๆ SCX 48 เสียงดีกว่า แต่ Superchromonica ทนทานกว่า ครับ ไปลองเลือกดูล่ะกัน
เวลาไปเลือกที่ร้านจะมีเครื่องเป่า-ดูด ลมให้ลอง (ไม่ให้ใช้ปาก หรือร้านไหนให้ใช้ก็ควรใช้นิ้วบังเวลาเป่าลองอย่าให้ซกมกครับ) ให้เน้นตรวจที่ช่องเสียงต่ำสุด กับสูงสุดจำนวนข้างล่ะสองช่องทั้งด้านซ้าย และขวา (ทั้งเป่า และดูด) เพราะตามสถิติถ้ามีการชำรุดจากโรงงานมักจะเกิดกับ 4 เสียงนี้ ให้ฟังไห้ดีๆ ว่าไม่มี Noise อย่างชัดเจน (ถ้ามีนิดหน่อยไม่เป็นไร ใช้งานไปสักพักจะหายไปเอง) ส่วนช่องอื่นๆ ก็ตรวจตามปกติซึ่งมักจะไม่มีปัญหาอะไร (ยกเว้นเครื่องจีนแดง ต้องตรวจแบบเน้นทุกช่อง)
ก็ขอให้สมหวัง…ได้เครื่องคู่ใจครับ
ขอบคุณครับพี่
รบกวนอีกครั้งครับพี่สรุปผมตัดสินใจจะใช้ golden cup หัดไปก่อนครับ ตอนแรกที่จะถอยใหม่เพราะเห็นมันมีขุยๆขาวๆพลาสติกด้านในเลยไม่กล้าดูดครับกลัวมันเข้าไปในปอด -*- ตอนนี้พยายามแกะมาเช็ดๆถูๆออกละครับ อยากทราบว่าจะเริ่มหัดยังไงดีครับ ขอบคุณครับ
พี่ครับผมเริ่มสับสนละครับขอโทษนะครับรุสึกเหมือนมาป่วนเพจนี้ยังไงไม่รุครับ คือพอฟังอันนึงผมก้อชอบอันนึง พอฟังอีกอันนึงผมก้อชอบอีกอันนึงอีกครับ แต่อยากเริ่มให้ได้สักอันแล้วจากที่ผมหาคลิปมาดู กะจะหัด มันจะไม่ค่อย มีchromatic ครับ ตอนนี้ผมตัดสินใจได้แล้วว่าจะเริ่มจาก diatonic ดูแล้วเหมือนจะหาข้อมูลมาหัดได้ง่ายกว่า อยากให้พี่กรุณาช่วยชี้แนะให้หน่อยอ่าครับว่าผมจะเริ่มจากชิ้นไหนดีครับ(ผมเป่าอันที่มียุแล้วเหนื่อยมากครับต้องเป่าแรงมากไม่งั้นเสียงไม่ออกถึงกับมึนหัวเลยครับ) ผมตั้งใจละครับว่าจะเล่น harmonica ผมมีงบเริ่มต้น ประมาณ 1000 +- ได้นิดหน่อยครับ ขอบคุณมากครับรบกวนด้วยนะครับ TT
ยินดีครับ…
ถ้าเป็น Diatonic ก็เข้าสูตรครับ…ไปที่เลือกรุ่นกันก่อน ระดับใช้ได้จนดีเลิศก็อยู่ในช่วงราคา 500-1800 บาทครับ ลองดูที่นี่
https://japharmonica.wordpress.com/category/choosing-harmonica/
เลือกได้แล้วก็มาหัดที่นี่
https://japharmonica.wordpress.com/category/diatonic/page/6/
หรือที่นี่
ส่วนรายละเอียดแต่ละรุ่น วิธีการเล่น ตลอด 2 ปีที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกันใน Blog มีเนื้อหามากพอสมควรเลยสำหรับมือใหม่ คิดว่าครบจนไม่ต้องพึ่งฝรั่งกันแล้วล่ะครับ แต่จะเก่ง หรือไพเราะแค่ไหนอยู่ที่การฝึกฝนของแต่ล่ะคนครับ
ยินดีครับ…
ถ้าเป็น Diatonic ก็เข้าสูตรครับ…ไปที่เลือกรุ่นกันก่อน ระดับใช้ได้จนดีเลิศก็อยู่ในช่วงราคา 500-1800 บาทครับ ลองดูที่นี่
https://japharmonica.wordpress.com/category/choosing-harmonica/
เลือกได้แล้วก็มาหัดที่นี่
https://japharmonica.wordpress.com/category/diatonic/page/6/
หรือที่นี่
ส่วนรายละเอียดแต่ละรุ่น วิธีการเล่น ตลอด 2 ปีที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกันใน Blog มีเนื้อหามากพอสมควรเลยสำหรับมือใหม่ คิดว่าครบจนไม่ต้องพึ่งฝรั่งกันแล้วล่ะครับ แต่จะเก่ง หรือไพเราะแค่ไหนอยู่ที่การฝึกฝนของแต่ล่ะคนครับ
ขอบคุณครับพี่ จากที่อ่านด้านบนๆผมว่าผมสนใจ harpmaster อะครับ มันไม่ต้องเป่าแรงเท่าของ golden cup ใช่ไหมครับ แล้วซื้อมาต้องแกะออกมาเช็ดขุยๆพลาสติกรึป่าวครับ อ้อแล้วคีย์แรกจะต้องเป็นคีย์ไหนครับ ถ้าเปนที่ไม่ใช่chromatic ผมชอบแบบเสียงลุงในคลิปนี้อะครับ>>>http://www.youtube.com/watch?v=LqD_VM93gNs ขอบคุณครับพี่
HarpMaster กินลมน้อยกว่า Golden Cup (หมายถึงรุ่นที่ขายในบ้านเรา แต่ผมเคยเข้า Web ของ Golden Cup เค้ามีรุ่นสูงๆ คุณภาพดีก็มากครับ แต่ไม่มีใครสั่งมาขายในเมืองไทย) ก็หมายถึงใช้แรงในการเป่าน้อย และสม่ำเสมอกว่าครับ
ส่วนคุณภาพ และ QC ในการผลิตของ HarpMaster อยู่ในระดับดี (ของญี่ปุ่น) ซื้อมาก็ใช้ได้เลย น้อยมากที่จะต้องมาแก้ไข
คีย์แรกก็แนะนำคือ Key C ครับ พอชำนาญแล้วก็ค่อยหาเพิ่มตามวัตถุประสงค์
ขอให้สนุกครับ
ครับ ขอบคุณมากครับ
พี่ครับโทดนะครับมีเทคนิคให้เป่าโดนช่องเดียวไหมครับ -*-
ขอโทดครับผมเปิดเจอที่พี่ให้มาละครับขอบคุณครับ
พี่ครับเล่นเสร็จแล้ว จะทำความสะอาดไงครับ -*- ขอบคุณครับ
– วิธีทำความสะอาด
– ๑ทุกครั้งที่เล่นเสร็จ เอาผ้าสะอาด(ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว)วางบนมือซ้าย เอา Harmonica ด้านที่เป็นช่องเป่า เคาะลงบนผ้าสัก ๓ – ๔ ครั้ง แรงพอสมควร เพื่อให้น้ำลาย หลุดออกมา แล้วเช็ด Cover plate ให้สะอาด แล้ววางไว้ในกล่อง ไม่ปิดฝากล่องอย่างน้อย ๑ ชั่วโมง เพื่อให้แห้งสนิท จึงปิดฝากล่อง
– ๒ หากมีอาการเสียงตื้อ บางช่องเป่า ให้นำ Harmonica แช่ในน้ำ ประมาณ ๓๐ นาที วิธีนี้ใช้ได้เฉพาะ Harmonica ที่ Comb ทำด้วย Plastic หรือ โลหะ สำหรับที่ Comb ทำด้วย ไม้ ห้ามใช้วิธีนี้ หลังแช่ครบ ๓๐ นาที ให้ใช้ปากเป่า Harmonica ในน้ำ จนแน่ใจว่าสะอาด แล้วนำมาสลัดน้ำให้แห้ง เช็ดด้วยผ้าสะอาด ตากไว้ให้แห้ง แล้วจึงเก็บเข้ากล่อง
http://harmonicafe.wordpress.com/
– ๓ หากทำวิธีที่ ๒ แล้วยังไม่หาย หรือ Comb เป็น ไม้ ต้องถอดออกล้าง ตามที่แนะนำไว้ใน website ข้างบน
ขอบคุณมากครับ
รบกวนถามหน่อยนะครับ คือ พวกเพลง วงแกรนเอ๊กซ์. the beatles. beegees .the carpenter
คือเพลงแนวไหนเหรอครับ ขอบคุณมากครับ
ส่วนใหญ่ Pop บางเพลง Pop-Rock ครับ
และ Rock ในบางเพลงของ The Beatles
ของ The Carpenter นี่ส่วนใหญ่ Pop ล้วนๆ เลย
ครับขอบคุณครับ เวลาเป่าถ้าน้ำลายออกมามากเป็นปกติใช่ไหมครับ รบกวนถามอีกคำถามด้วยครับ เพลงที่ผมพิมไว้ตอนแรกนี่ ต้องใช้ตัวไหนเล่นถึงจะเข้าท่าสุดครับหรือแล้วแต่ว่าชอบเสียงแบบไหนครับ ขอบคุณครับคือผมตั้งใจว่าจะไปทาง chromatic ยุแล้วอะครับ แต่มาหัด diatonic ก่อนแล้วติดตรงที่ bend เสียง ยากจังเลย ตอนนี้เลยเริ่มมีความคิดจะไปหา chromatic ดีๆมาหัดเลยอะครับ ขอบคุณมากครับ
ขอสอบถามเพิ่มเติมนะครับ คือ โครมาติกแต่ละแบบที่มีจำนวนช่องไม่เท่ากันมันต่างกันยังไงและสามารถเล่นเพลงได้ครบเหมือนกันรึป่าวครับ ขอบคุณครับ รบกวนด้วยนะครับ
Chromatic จะมีรูปแบบของช่องเสียงเหมือนกันหมดครับ เพียงแต่จะเพิ่มเสียงสูง หรือเสียงต่ำให้มากขึ้นแค่นั้น ลองดูจากรูปในหน้านี้ครับ
จะเห็นว่าแค่เพิ่มช่อง แต่รูปแบบการเรียงของเสียงในแต่ล่ะช่องยังเหมือนเดิม
เราจะเลือกแบบไหนมาเล่นก็อยู่ที่ Range เสียงของเพลงที่เราจะเล่นว่ากว้างมากรึเปล่า
ในเพลงทั่วๆ ไป แบบ 12 ช่องก็เหลือเฟือแล้วครับ หรือถ้าได้ 14 มาก็ถือว่าเล่นสบายขึ้น และไม่มีเพลงไหนรอดมือเราไปได้แล้ว…เล่นได้หมด (ยกเว้นเพลงคลาสสิคบางเพลง) ก็แลกกับขนาดมันที่ใหญ่ขึ้นอีกนิด
แต่ถ้าติดรูปแบบของ Diatonic ว่าต้องเล็กๆ พกง่ายๆ ก็เลือก 10 ช่องก็ได้ (แต่หาซื้อยากในบ้านเรา ที่นี่เห็นมีแต่ของ Hohner ที่ราคา และขนาดไม่ได้ย่อมไปกว่าแบบ 12 ช่องซะเท่าไหร่) ในบางยี่ห้อ เช่น Bandmaster รุ่นที่ผลิตในเยอรมัน (บ้านเราไม่มีขาย) ใหญ่กว่า Diatonic นิดเดียว
แล้วก็มา 16 ช่อง อันนี้จะเป็นแบบเพิ่มเสียงเบส (ด้านช้าย 4 ช่อง) เข้าไปในแบบ 12 ช่อง ขนาดใหญ่มาก ผมเองยังไม่เคยหยิบมาเล่นเลยสักครั้ง ส่วนมากจะใช้เล่นเพลง Jazz หรือเพลง Classic
โดยทั่วๆ ไป คนมักถูกดึงดูดให้สนใจ Harp เริ่มจาก Diatonic เพราะมันเท่ และเสียงที่เอื้อน (ฺำืBending) ลึกถึงก้นบึ้งของจิตใจกันเลยทีเดียว (มาจากความเก็บกดของคนดำในเมกานั้นแหละ) แต่คนที่จะเล่นได้ระดับนั้นก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาแหละครับ ที่ผมเจอส่วนใหญ่จะเริ่มเล่นเพราะความเท่ของ Diatonic และเลิกเล่นเพราะความยากของ Diatonic เช่นกัน
ขอให้ลองเล่นดูก่อนครับอยากเพิ่งซื้อหลายตัวซื้อ Diatonic ตัวสัก 4-5 ร้อย (Suzuki) ก็ได้มาตราฐานแล้ว เล่นไปเรื่อยๆ อย่าใจร้อน ระดับเอื้อนได้อย่างใจนี่เป็นปีๆ ครับ และถ้าเบื่อ ทู่ซี้เล่นอย่างไรก็ไม่เป็นเพลงเสียที ก็ค่อยหันมาสนใจ Chromatic ซึ่งมันก็สามารถเอื้อนเสียงได้แม้จะไม่ลึกเท่า Diatonic แต่ก็มีเทคนิดอื่นที่ Diatonic ก็ทำไม่ได้ สรุปก็คืออยู่ที่การฝึกหัดของคนเล่นมากกว่าครับ แต่ Chromatic เล่น (เป็นเพลง) ง่ายกว่าเท่านั้นเอง
ขอบคุณมากครับ พี่ครับ bending มันเหมือนค่อยๆทำให้รูเป่าเล็กลงรึป่าวครับ
พี่ครับแล้วถ้ายกโคนลิ้นขึ้นแล้วมันก็จะไม่มีอะไรอุดอีก 3 รูสิครับ
เป็นการบีบให้ลมเปลี่ยมมุมจะถูกกว่าครับ เหมือนเราผิวปาก ลองทำผิวปากให้เสียงเปลี่ยนดูจะเห็นว่าริมฝีปากจะขนาดเท่าเดิมแต่กล้ามเนื้อจะบังคับให้ลมเปลี่ยนเสียง
กับ Harmonica ใช้ลิ้นเป็นตัวบังคับมุมลม (โดยที่ปลายลิ้นยังคงแตะปิดช่องลมไว้) แรกๆ จะลิ้นแข็งทำไม่ได้ ต้องฝึกสักพักครับ เหมือนเล่นกีต้าร์แรกๆ มือจะแข็งจับแล้วเสียงบอด ต้องฝึกกล้ามเนื้อสักพัก
ลองอ่านที่เคยเขียนไว้ดูครับ มัหลายวิธี (ถ้าลองแล้วยากก็ลองเปลี่ยนวิธีดู อย่าท้อครับ บทจะได้มันได้เองเลย)
เคครับ บางทีรุสึกว่าได้ครับแต่ เหนื่อยนะครับ ขอบคุณมากครับเดี๋ยวไปหัดต่อละครับ ช่วงนี้ใกล้สอบครับ เดี๋ยวสอบเสดพอปิดเทอมคงหัดทั้งวันอะครับ 55+ ผมจะเอาไปเล่นโชวครับ อิอิ ขอบคุณมากครับได้กำลังใจ+ความรู้ขึ้นมากครับ
พี่ครับถ้าว่างๆรบกวนช่วยแกะเพลง รักฉันนั้นเพื่อเธอ ของ พิ้งค์แพนเตอร์ให้หน่อยนะครับ ขอแบบ single note ก็ได้ครับเดี๋ยวbend เป็นแล้วจะไปลองเอื้อนเองครับ ขอบคุณครับ
การ Bending ส่วนใหญ่จะถูกบังคับให้ทำจากโน้ตตัวนั้นที่ไม่มีใน Diatonic Harp คัย์ที่ใช้ เช่น ในเพลงมีเสียงโน้ต F ต่ำแต่เราใช้ Harp Key C เล่น ซึ่งไม่มีเสียง F ต่ำ จึงจำเป็นต้อง Draw Bend ที่ช่อง 2
เพราะฉะนั้นถ้ายัง Bend เสียงไม่ได้ก็ต้องทนเล่นเพี้ยนๆ ไปก่อนครับ (สำหรับ Diatonic Harp)
ส่วน Single Note นั้น…Tab ทุกเพลงเป็น Single Note อยู่แล้ว ถ้าจะเล่นเสียงประสานก็คาบช่องให้กว้างขึ้นเป็น 3-4 ช่องโดยเสียงหลักก็ยังเป็นเสียง Single Note ตัวนั้นอยู่ดี
ลองทำความเข้าใจดีๆ ก่อนครับเดี๋ยวจะสับสน ใจเย็นๆ เพลงที่ขอจะเอาเข้าคิวไว้ครับ (ถอดโน้ตค้างอยู่ 5-6 เพลงแล้ว ยังไม่ได้ทำ Tab เลย) แล้วจะลงให้ที่ Harmonicafe Blog น่ะครับ
มีเรื่องรบกวนถามครับ
-Hohner 150th Anniversary ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ แล้วการ Bending ง่ายไหม
-ผมมี Harmonica คีย์ C แล้ว ถ้าจะซื้อใหม่ คีย์ อื่น ควรเลือก คีย์ไหนดีครับ
-แล้วการสะสมคีย์ให้ครบ ควรต้องเป็นรุ่นเดียวกันไหมครับ (กำลังคิดว่าถ้าซื้อรุ่นอื่นๆ ที่คีย์ต่างกันเพื่อให้ได้คีย์ครบ)
– Hohner 150th Anniversary ราคาประมาณพันต้นครับ ผมจำราคาแน่นอนไม่ได้เพราะซื้อไว้นานแล้ว แต่ถูกกว่า Marine Band Deluxe
– Bending ง่ายพอๆ กันกับ Marine Band Deluxe แต่เสียงออกทางใสๆ ไม่ warm เหมือน Marine Band Deluxe
– ถ้าซื้อแบบไม่มีเหตุผลอื่นประกอบ ผมจะซื้อ Key G ครับ ลองอ่านเรื่องเก่าๆ ดูครับ
– ถ้ามีรุ่นที่ชอบสุดๆ (ควรผ่านการใช้ง่านมาสักระยะแล้วจนสามารถแยกลักษณะเฉพาะของ Harp แต่ล่ะรุ่นได้) ก็รุ่นนั้นแหละครับที่ควรจะมีไว้ใช้
ตัวผมเองทดลองหลากหลายก่อน เล่นไปเรื่อยๆ ซื้อเมื่อจะใช้ (สำหรับ Diatonic ส่วน Chromatic นี่ผมสะสม ใช้ประจำอยู่ 2-3 ตัวเอง) ผมจึงมีครบ 12 +2 ตัว ในหลากหลายรุ่นและยี่ห้อมากครับ พอได้ตัวที่ชอบผมจึงเก็บรุ่นนั้นจนครบ (ค่อยๆ ซื้ออีกเช่นกัน หลายปีก็ครบไปเอง)
ปล. ช่วงนี้ทราบว่าคุณ Jap งานยุ่งมาก ผมพอมีเวลา ก็ขอตอบคำถามแทนไปพลางๆ ก่อนครับ ไว้คุณ Jap เสร็จภาระกิจเพื่อชาติเมื่อไหร่ ก็คงมาพบแฟนๆ เองครับ
ถ้าจะซื้อ xb-40 ควรเลือกคีย์อะไรดีครับ เห็นว่าคีย์ C มีปัญหาที่เสียงสูง
XB-40 มีผลิตเป็น Key Low ออกมาเยอะมาก เมื่อก่อนมีไม่กี่เสียง ตอนนี้ผมคิดว่าผลิต Key Low ออกมา 6-7 ตัวได้แล้ว แต่ไม่แน่ใจน่ะครับ เพราะเห็นผ่านๆ ไม่ได้ตั้งใจนับ (รุ่นใหม่ๆ ของ Hohner มี Key Low เยอะมากแทบทุกรุ่นครับ ถูกใจผมมาก แต่ไม่ถูกสตางค์เลย)
ถ้าหาซื้อในบ้านเราคงต้องเป็น Key G ธรรมดาครับ เพราะไม่มีนำเข้าพวก Key Low
เท่าที่เล่นดูพวก Low ไปเลยจะเล่นได้ง่ายขึ้น Key G ยังคุมลำบากอยู่ แต่ก็ไม่เกินความสามารถครับเพียงต้องตั้งในสังเกตลมที่ใช้ให้พอดีจริงๆ ก็ OK ครับ แต่ขอบอกเลยว่า XB-40 เสียงเพราะมาก ผมชอบกว่า Marine Band Deluxe หรือ Crossover เสียอีก ทั้งๆ ทีไม่มีส่วนใดเป็นไม้เลย แต่เสียงของ XB-40 Warm มากๆ ให้ความรู้สึก Acoustic ที่สุดเลย (ท่าทางผมจะทำให้คุณเสียสตางค์มากขึ้นรึเปล่าเนี่ย จากรุ่นธรรมดา กลายมาเป็น XB-40 ซะแล้ว)
– สำหรับเรื่อง การเลือก key Harmonica ผมอยากแนะนำตามประสบการณ์ของตนเอง ให้เลือก key Harp ให้ตรงกับ key เสียงร้องของเรา หมายความว่าท่านต้องทราบ key ของเสียงร้องของท่านก่อน วิธีง่ายๆ ท่านร้องเพลง karaoke กับเครื่อง karaoke ที่สามารถปรับ key เพลงได้ เลือกร้องเพลงที่ท่านคิดว่าร้องได้ดีที่สุด แล้วปรับ key ของเพลงใน karaoke ให้ได้ key ที่ท่านรู้สึกร้องสบายที่สุด นั่นแหละคือ key เสียงร้องของท่าน ถ้าท่านมีเพื่อนเป็นนักดนตรี ก็ให้เพื่อนช่วยหา key เสียงของท่านก็ได้ เมื่อท่านทราบว่าเสียงร้องของท่าน key ไหน ท่านก็ซื้อ Harp ที่ key ตรงกันเสียงของท่าน ๑ ตัว อีก ๑ ตัว ให้ key ต่ำลงไป ๑ เสียงเต็ม เช่นผม เสียง key Eb ผมก็ซื้อ Harp key Eb กับ Db วิธีของผม สำหรับเราร้องเพลงพร้อมกับเป่า Harmonica ไปด้วย หากเพลงเป็น key major ผมก็ใช้ Harp key Eb หากเพลงเป็น key minor ผมก็ใช้ Harp key Db
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
เว็บนี้มีข้อมูลที่มีประโยชน์มากครับ ผมคงได้เข้ามาดูบ่อยๆ ตอนนี้กะว่าจะหัดจริงๆจังๆ ก่อนหน้านี้เล่นแบบงูๆปลาๆมานาน ครับ ผมสนใจ crossover ส่วน XB-40 ไม่รู้ว่าราคาประมาณเท่าไหร่ครับ เพราะอ่านดูที่แนะนำกัน คุณสมบัติมันน่าสนมากๆ
Crossover ประมาณ 1700 บาท
XB-40 ประมาณ 3000 บาท ครับ
Crossover มีคีย์ C ไหมครับ
ลองสอบถามทางร้านมีสินดูน่ะครับ ไม่ทราบว่ายังมี Key อะไรเหลืออยู่บ้าง
ผมเพิ่งซื้อ Marine Band ตัวทำจากไม้มาอ่ะครับ ไม่ทราบว่าจะดูแลรักษายังไงหรอ?ครับ
เหมือนพาสติกไหมอ่ะครับ
ไม้ต้องระวังเรื่องความชื้นครับ
อันนี้ส่วนตัวที่ทำจะใช้วิธีเดียวกับพลาสติก แต่ให้ใช้เวลาสัมผัสกับน้ำให้น้อยที่สุด และสบัดให้แห้งที่สุด
เช็ดเรียบร้อยก็ผึ่งลม (พัดลม หรือเครื่องเป่าลมธรรมดา ห้ามใช้ไดร์เป่าผมเด็ดขาด)
จะเห็นว่ายุ่งถ้าทำทุกวัน เพราะฉะนั้นป้องกันดีกว่าตามแก้ครับคือ
ผมไม่ค่อยล้างน้ำ แต่รักษาความสะอาดปากของเราก่อนเล่นมากกว่า ไม่ทานอาหารก่อนเล่น บ้วนปากให้เรียบร้อย และเล่นเสร็จแล้วสบัดให้แห้ง ถ้าเล่นนาน มีความชื้นค้างอยู่ในเครื่องก็ใช้คอตตอนบัดเช็ดให้แห้ง และสุดท้ายก่อนเก็บเข้ากล่องต้องมั่นใจแล้วว่าแห้งจริง ไม่งั้นสนิมจะถามหาตามหมุดยึดลิ้นข้างในครับ
เมื่อวานไปถอย Crossover มาแล้วครับ โทรไปที่ร้านมีสิน เหลือแต่คีย์ E เลยไม่ได้ไปที่ร้านมีสิน
แต่ไปเดินซื้อกล้องให้น้องที่ central ลาดพร้าวแทน บังเอิญไปเจอร้านขายเครื่องดนตรีที่นั่น
มี Crossover คีย์ C (ผมเลือกซื้อ คีย์ C ก่อนครับ ส่วน คีย์ G อาจจะเอาไว้ซื้อ Manji ) แต่ราคาแพงกว่าประมาณ ๓๐๐ ก็ขี้เกียจนั่งรถไปหลังกระทรวงแล้วหล่ะแลกกะเงิน ๓๐๐ คงพอๆกัน ก็เลยตัดใจได้น้อง Crossover จนได้ เสียงถูกใจมากครับ 😀 ต่อไปก็ได้เวลาหัดจริงๆจังๆซะแล้ว
จบการรายงานครับ
ดีใจด้วยครับ
รุ่นนี้มีแต่คนชม ผมยังไม่เห็นใครติจุดไหนได้เลย (ยกเว้นราคา…ฮา…)
ขอให้สนุกครับ สู้สู้ ทาเคชิ
สวัสดีครับ ผมขอฝากตัวเป็นน้องใหม่ด้วยคนครับ อยู่เชียงรายครับ เพิ่งโอนเงินค่า เจ้า 1,850 วันนี้ครับ จะได้ของประมาณวันศุกร์ ที่ตัดสินใจซื้อก็เพราะข้อมูลในบอร์ดนี้ละครับ ตอนนี้ใช้ EZR และ Silver star หัดเบนดิ้งอยู่ครับ ได้แค่เสียงดูดรูแรกครับ ตอนนี้ก็เลยคิดว่าคงเป็นเพราะเครื่องไม่ดี ถ้าได้ Crossover มาแล้วยังไม่เป็นคงไม่มีข้ออ้างแล้ว ยังไงก็ขอฝากตัวกับทุกท่านด้วยนะครับ
พี่ครับ ขอโน๊ตเพลงทานตะวันได้ไหมคับ
ขอเปนตัวเลขก่อนได้มั้ยคับ
สวัสดีคะ ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคนนะคะ ฝึกเป่าฮาร์โมนิก้ามาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ดูและฟังตามคลิปต่างๆ อยากเป่าเก่ง ๆ คะ เข้ามาอ่านการเลือกซื้อและวิธีการเป่าในนี้จนเป่า single note ได้หลายเพลงแล้ว แต่ฝึกเป่าแบบแกะเนื้อเพลงเองคะ ถ้าเป่า single note คล่องแล้ว
1. ต่อไปควรจะเรียนรู้อะไรต่อ
2. เป่าแบบ cord เป็นยังไงคะ ต่างจาก single note ยังไง
ขอบคุณมากคะ
สวัสดีคะ ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคนนะคะ ฝึกเป่าฮาร์โมนิก้าแบบ single note ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เป่าโดยการจำเสียงและแกะเนื้อเพลงเองแต่ไม่ทราบว่ารูไหนเป็นโน็ตอะไร ดูและฟังตามคลิปต่าง ๆ อยากเป่าเก่ง ๆ คะ ถ้าเป่าแบบ single note คล่องแล้ว
1. ควรจะเรียนรู้อะไรต่อ
2. เป่าแบบ cord เป็นอย่างไร ต่างจากการเป่าแบบ single note อย่างไร
ขอบคุณมากคะ
เพิ่งหัดเล่นครับ
มีปัญหาเรื่องไม่มีเสียง ฟา กะ เสียง ลา ที่อ๊อกเทฟต่ำ
ไม่ทราบแก้ไขอย่างไรครับ